มือใหม่ควรรู้ ข้อดี ข้อเสีย ของการต่อผมแต่ละแบบ

ปัจจุบันการต่อผมเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ใครที่ไปตัดผมสั้นมาแล้วรู้สึกไม่ชอบ หรือไม่เข้ากับตัวเอง ก็ไม่ต้องรอให้ผมยาวอีกต่อไป แค่ทำการต่อผม ผมก็ยาวได้ดังใจแล้ว แต่ว่าการต่อผมก็มีหลายแบบด้วยกัน ทั้งการต่อแบบติดกิ๊บ แบบใช้กาวติด ต่อผมแบบเส้นต่อเส้น ต่อผมแบบเคราติน และอีกมากมาย วันนี้เรามีข้อดี ข้อเสียของการต่อผมแต่ละแบบมาฝากกัน เผื่อจะได้ศึกษาเป็นแนวทางค่ะ

Tips) แนะนำเทคนิคการต่อผม ตัวช่วยเสริมความสวยยอดนิยม

ภาพจาก https://drtarinee.com

1. การต่อผมแบบติดกิ๊บ

การต่อผมแบบติดกิ๊บเป็นการใช้กิ๊บเป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมต่อเข้ากับเส้นผมของเรา สามารถซื้อกิ๊บมาติดเองได้ แต่อาจต้องใช้ความสามารถในการทำสักหน่อย

ข้อดี

  • ทำง่าย และสะดวก สามารถถอดเข้าถอดออกได้
  • ราคาถูก

ข้อเสีย

  • มองเห็นรอยต่อจากผมได้ง่าย
  • สำหรับการต่อผมแบบติดกิ๊บ เป็นการต่อผมที่ทำง่ายและสะดวกที่สุด อีกทั้งยังมีราคาถูก สามารถถอดเข้าถอดออกได้ตามใจ

2. การต่อผมแบบกาว

การต่อผมแบบกาวเป็นวิธีการต่อผมแบบใช้กาวเป็นตัวเชื่อมระหว่างเส้นผมต่อกับเส้นผมจริงของเรา เมื่อต่อเสร็จก็จะได้ผมที่ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดี

  • ใช้เวลาทำไม่นาน
  • ราคาถูก

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะกับคนที่ชอบสระผมบ่อยๆ หรือคนที่มีปัญหาผมมันง่าย เพราะจะทำให้กาวเสื่อมสภาพเร็ว
  • บางคนอาจแพ้กาวได้

3. การต่อผมแบบเทป

การต่อผมแบบเทปเป็นวิธีการต่อผมคล้ายกับการต่อแบบกาว เพียงแต่เปลี่ยนจากการใช้กาวมาเป็นใช้เทปเป็นตัวเชื่อมระหว่างเส้นผมต่อกับเส้นผมจริงแทน

ข้อดี

  • จุดที่เชื่อมต่อมีความเรียบ แบน สามารถนอนทับได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ

ข้อเสีย

  • บางร้านอาจใช้เทปที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ผมเสียได้

Tips) แนะนำเทคนิคการต่อผม ตัวช่วยเสริมความสวยยอดนิยม

ภาพจาก https://drtarinee.com

4. การต่อผมแบบไมโครริง หรือแบบคลิป

การต่อผมแบบไมโครริง หรือแบบคลิป เป็นการต่อผมโดยใช้วงแหวนเหล็กเป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมต่อกับผมจริง ซึ่งการต่อผมแบบนี้ฮิตมากในหมู่สาวๆ

ข้อดี

  • มีความคงทน หลังจากต่อผมเสร็จ สามารถอบไอน้ำได้เลย
  • ถอดง่าย
  • ราคาถูก

ข้อเสีย

  • เจ็บหนังศีรษะง่าย

5. การต่อผมแบบนาโนริง

การต่อผมแบบนาโนริงจะคล้ายกับการต่อผมแบบไมโครริง แต่ใช้วัสดุวงแหวนที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครริงมาก ให้งานละเอียดมากกว่า

ข้อดี

  • สบายหนังศีรษะ
  • ราคาไม่แรงมาก

ข้อเสีย

  • เนื่องจากการต่อผมด้วยนาโนริงจะใช้ผมต่อช่อเล็กมาก จึงเกิดการหลุดร่วงง่าย

6. การต่อผมแบบเส้นต่อเส้น หรือผูกเส้นผม

การต่อผมแบบเส้นต่อเส้น หรือผูกเส้นผมจะใช้เส้นผมที่ต้องการนำมาต่อมาผูกกับเส้นผมจริงของเราทีละเส้นหรือทีละช่อเล็กๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมาก และการต่อผมแบบนี้เหมาะกับสาวผมบางด้วย

ข้อดี

  • ได้ผมที่เป็นธรรมชาติมากกว่าการต่อแบบอื่นๆ

ข้อเสีย

  • ใช้เวลาทำนาน และหลุดง่าย เนื่องจากไม่มีตัวเชื่อมใดๆผูกติดกับผม
  • ราคาแพง

7. การต่อผมแบบมัดเชือก

การต่อผมแบบมัดเชือกเป็นวิธีต่อผมโดยใช้เชือกเส้นเล็กเป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมที่ต้องการนำมาต่อกับช่อผมบนหนังศีรษะเรา ผลลัพธ์ที่ได้จึงค่อนข้างสบายหัวกว่าการต่อผมแบบใช้กิ๊บหรือกาว

ข้อดี

  • มีความคงทน
  • ถนอมเส้นผมจริงได้ดีกว่าการต่อผมแบบอื่นๆ

ข้อเสีย

  • ใช้เวลาในการทำนาน

ต่อผมแบบไหนดี มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร แนะนำข้อควรรู้ก่อนไปต่อผม

ภาพจาก https://www.kapook.com

8. การต่อผมแบบถักเปีย

การต่อผมแบบถักเปียเป็นการต่อผมจริงกับผมต่อด้วยการถักเปียรวมเข้าด้วยกัน ไม่ใช้สิ่งแปลกปลอมอย่างกิ๊บ กาว หรือเทปมาติดบนศีรษะ

ข้อดี

  • ทำให้ผมดูหนา และเป็นธรรมชาติ
  • มีความคงทน

ข้อเสีย

  • เวลาสระผมต้องเป่าผมช่วงโคนให้แห้งสนิท เพราะจะทำให้มีปัญหาเรื่องกลิ่นได้
  • ราคาแพง

9. การต่อผมแบบหลอด หรือแฮร์ล็อก

การต่อผมแบบหลอด หรือแฮร์ล็อกเป็นการต่อผมที่ใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายหลอดมาเชื่อมระหว่างผมต่อกับผมจริง สามารถอยู่นานได้ถึง 6 ปี

ข้อดี

  • ให้ความคงทนสูง ไม่หลุดง่าย
  • สามารถทำสี ดัด หรืออบไอน้ำได้ตามปกติ

ข้อเสีย

  • ราคาแพง

10. การต่อผมแบบเคราติน

การต่อผมแบบเคราตินจะมีขั้นตอนเหมือนกับการต่อผมแบบกาว ต่างกันแค่ใช้เคราตินในการต่อผมแทนกาว ซึ่งเคราตินจะมีความคงทนกว่า มีน้ำหนักเบา และทนต่อความร้อนได้ดี

ข้อดี

  • เส้นผมไม่พันกัน หากตัวเชื่อมละลาย
  • ถอดออกง่าย

ข้อเสีย

  • ราคาแพง