แม้ว่าสิวจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็คงไม่มีใครอยากให้หน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ของเราเต็มไปด้วยสิวจริงไหม แต่ก็มีหลายคนที่ต้องเจอกับปัญหาสิว ทำให้รู้สึกหมดความมั่นใจในตัวเอง ยิ่งตอนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยิ่งทำให้เป็นสิวง่ายขึ้น ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยก็ดีตรงที่ไม่มีใครเห็นหน้าที่มีสิวของเราแบบเต็ม ๆ และปัญหาสิวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนเป็นสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ ที่เป็นแล้วหายยากมาก ทั้งกดสิวทั้งบีบสิวก็ดูเหมือนว่าสิวจะหายแล้ว แต่สุดท้ายสิวก็กลับมาเหมือนเดิมอีกจนไม่รู้จะทำยังไงดี หรือบางคนพอสิวหายแต่ก็ทิ้งรอยดำรอยแดงหลงเหลืออยู่บนใบหน้ายิ่งทำให้กลุ่มใจเข้าไปอีก วันนี้ก็จะมาแชร์เคล็ดลับวิธีรักษาสิวให้หายขาดแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งหมอ ให้คุณเตรียมบอกลาหน้าสิวกันได้เลย
สิวเกิดจากสาเหตุอะไร?
การเกิดสิวมีด้วยกันหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งแบบที่ตัวเราเองสามารถควบคุมการเกิดของสิวได้ และไม่สามารถที่จะควบคุมเองได้หรือมักจะบอกกันว่าเป็นสิวตามกรรมพันธุ์ โดยสาเหตุหลัก ๆ ในการเกิดสิวเราจะแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก ๆ นั่นก็คือ ปัจจัยภายใน และ ปัจจัยภายนอก
- ปัจจัยภายนอก คือ เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้เลย แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ ป้องกันการเกิดสิวได้ในระดับหนึ่ง ได้แก่ การทำความสะอาดผิวหน้า ไม่ถูกวิธีอาจจะขัดถูแรงจนเกินไป หรือล้างหน้าบ่อยมากไป ก็มีส่วนทำให้สิวรุนแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า เครื่องสำอางและมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว เช่น สเตียรอยด์ เครื่องสำอางต่าง ๆ รวมถึงสภาพอากาศและมลภาวะ เช่น สภาพอากาศร้อน แห้ง ชื้น มีผลทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้พวกฝุ่นและควันมลภาวะต่าง ๆ ก็ทำให้เกิดสิวอุดตันได้เหมือนกัน
- ปัจจัยภายใน คือ เป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ และสามารถหลีกเลี่ยงได้เหมือนกัน ได้แก่ ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิวเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกเพศและทุกวัย ร่างกายสามารถสร้างฮอร์โมนเพศมากขึ้น และเมื่อร่างกายหลั่งไขมันมากผิดปกติ ก็จะไปกระตุ้นต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและก็ยังผลิตไขมันออกมากขึ้น จึงทำให้เกิดสิวง่ายขึ้น กรรมพันธุ์ อาจจะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากหน่อย แต่ก็รักษาสิวได้เช่นกัน เกิดจากความเครียดก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นได้ง่าย เพราะเมื่อร่างกายมีความเครียดก็จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานหนักขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงวิถีการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น นอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ เป็นต้น
โบกมือลาปัญหาสิว กับ 7 วิธีรักษาสิวให้หายขาด ไม่ว่าสิวแบบไหนก็เอาอยู่!
ใครที่มีปัญหาเรื่องสิวมากวนใจทำให้บั่นทอนจิตใจ งั้นเราเตรียมโบกมือลาปัญหาสิวกันได้เลย ด้วยวิธีรักษาสิวแบบง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำด้วยตัวเองได้ ทั้งนี้ การรักษาสิวให้หายขาดจะใช้เวลาเร็วหรือนานหลายเดือนก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งของแบบนี้ก็ต้องใจเย็น ๆ แม้ว่าจะช้าหน่อยแต่ก็หายชัวร์ ส่วนจะมีวิธีรักษาแบบไหนกันบ้าง ลองมาดูกัน
1.ล้างหน้าให้สะอาดไร้สิ่งตกค้าง
วิธีรักษาสิวง่ายที่สุดที่ใครก็ทำได้นั่นก็คือ การล้างหน้าให้สะอาดและต้องล้างให้ถูกวิธี ใครที่เป็นสิวอยู่แล้วสิ่งที่ไม่ทำคือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ให้ล้างด้วยอุณหภูมิปกติ ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป ยิ่งล้างบ่อยหน้าจะยิ่งแห้งทำให้ต้องผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดสิว อีกทั้งก็ไม่ควรล้างด้วยฝักบัวเด็ดขาด เพราะด้วยความแรงของฝักบัวจะทำให้ความมันบนใบหน้าออกไปหมด ก็จะทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน ดังนั้น ในการล้างหน้าควรล้างเป็นประจำเช้า-เย็น ถูอย่างถนอมมากที่สุด
2.ห้ามบีบสิว แคะ แกะ เกาใบหน้า
หลายคนพอสิวขึ้นหน้า มือก็เริ่มคันอยู่ไม่สุก จะต้องรีบกดสิว บีบสิวทันที เพราะคิดว่าทำแบบนี้แล้วสิวจะหาย แต่อยากจะบอกว่านั้นคือสิ่งที่ผิด นอกจากสิวจะไม่หายแล้ว ยังได้ของแผลเป็นมาเพิ่มอีกด้วย ดังนั้น เมื่อสิวขึ้นหน้าห้ามบีบสิว ไม่แคะ แกะ หรือเกา เพราะจะทำให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น เนื่องจากมือของเรานั้นเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แล้วถ้านำมือไปบีบสิวสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนมือก็จะเข้าสู่ผิวหน้า ก็จะยิ่งเพิ่มความสกปรกบนใบหน้ามากเพิ่มขึ้น
3.รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์
ให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการ ให้เน้นผักและผลไม้มากเป็นพิเศษ ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยทำให้ผิวสุขภาพดี แล้วยังทำให้สิวขึ้นได้ยากมากขึ้น และถ้าหลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือมันได้ก็ดีมาก ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีผลที่ชัดเจนว่าการกินของทอดหรือมันนั้นจะทำให้เกิดสิว แต่ที่แน่ ๆ ถ้าลดได้สุขภาพดีชัวร์!
4.ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
การใช้ยาแต้มสิว ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาสิวให้หายเร็วขึ้น เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบมีระดับปานกลางจนถึงความรุนแรง ส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการเลือกใช้ยารักษาสิวชนิดทา ที่มีความเข้มข้นน้อยก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่น Benzac เริ่มต้นที่ 2.5% ถ้าใช้แล้วยังทนไหวก็ให้เพิ่มมาที่ 5% หรือจะเลือกใช้เป็นยาแต้มสิว Retin A ให้เริ่มจาก 0.025% ก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็น 0.05% และเมื่อสิวเริ่มยุบหายจนหมด คงเหลือไว้เพียงแค่รอยดำหรือรอยแดงเอาไว้ แนะนำให้ใช้เป็นครีมรักษารอยสิว จะช่วยให้คุณมีหน้าสวยใสไร้สิวอีกด้วย
5.เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งทุกครั้ง
สาว ๆ ที่ตื่นเช้ามาก็แต่งหน้าก่อนออกจากบ้านเป็นประจำทุกวัน ยิ่งต้องล้างหน้าให้สะอาดมากเป็นพิเศษก่อนที่จะนอนทุกครั้ง ให้เปลี่ยนพฤติกรรมจากการล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้า หันมาเลือกใช้เป็นคลีนซิ่งในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกให้หมดจด จากนั้นค่อยล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนเป็นประจำทุกวัน หรือใครเป็นสิวอุดตันอาจจะเลือกใช้เป็นโฟมล้างหน้าสําหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน ควรหลีกเลี่ยงการถูหรือขัดหน้าแรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิวได้ง่ายนั่นเอง
6.ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
ส่วนใครที่หน้าเป็นสิวจะเป็นสิวอะไรก็ตาม ก็ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นส่วนผสมหลักในการช่วยรักษาสิวได้อย่างตรงจุด เนื่องจากกรดตัวนี้จะมีคุณสมบัติช่วยลดสิวได้อย่างดีเยี่ยม
7.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอก็มีผลต่อการเกิดสิวเหมือนกัน การนอนดึกจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในหลาย ๆ อย่าง เพราะถ้านอนดึกก็จะทำให้ร่างกายอ่อนล้า ผิวไม่แข็งแรง แถมยังตามมาด้วยริ้วรอย และยิ่งถ้านอนดึกบ่อย ๆ เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน จะมีโอกาสสูงที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้นสาว ๆ คนไหนอยากหน้าสวยกระจ่างใสไร้สิว แนะนำให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่างน้อยก็วันละประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง ตื่นเช้ามาก็จะทำให้รู้สึกสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และจากสิวที่เคยมีก็จะค่อย ๆ ยุบลงไปเองได้ในที่สุด โดยที่ไม่ต้องพึ่งหมอเลย
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับวิธีรักษาสิวให้หายขาดโดยไม่ต้องพึ่งหมอ ที่อยากจะแชร์ให้ทุกคนที่มีปัญหาสิว ไม่ว่าคุณจะเป็นสิวอะไรก็ตาม ทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวฮอร์โมน หรือจะเป็นสิวที่หลัง สามารถนำ วิธีรักษาเหล่านี้ไปใช้กันได้ หรือจะใช้ทุกวิธีเลยก็ยังได้ เพียงแค่นี้ปัญหาสิวที่เคยกวนใจก็จะไม่มีอีกต่อไป ให้สวยได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยรักษาสิวได้เหมือนกัน หลายคนก็ชอบถามกันมากว่าเลือกกิน Zinc ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยได้ทั้งปัญหาผมและสิวไปพร้อมกัน ก็ต้องบอกว่ามีให้เลือกหลายแบรนด์มาก ๆ สามารถเข้าไปเลือกซื้อเลือกหากันได้เลยจ้า