รักษาสิวโฮร์โมน

สิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร รักษาสิวฮอร์โมนยังไงให้หาย

ปัญหาผิวหน้าที่สาวๆหลายคนไม่อยากเจอก็คือสิว ยิ่งช่วงใกล้เป็นประจำเดือนจะมีสิวเยอะมากและรุนแรงกว่าปกติ ทั้งเจ็บแล้วก็บวมแดง ซึ่งสิวเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สิวฮอร์โมน” หลายคนเมื่อเป็นสิวฮอร์โมนก็กังวลไปว่ามันจะหายมั๊ย? จะรักษาสิวฮอร์โมนยังไงดี? เอาเป็นว่าเพื่อช่วยให้สาวๆหายกลุ้มใจ เราไปทำความรู้จักกับสิวฮอร์โมนให้มากกว่านี้กันดีกว่า และมาดูวิธีการรักษาสิวฮอร์โมนยังไงให้หายกัน

สิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร?

สิวฮอร์โมนหลักๆเลยเกิดจากภาวะฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่สมดุลกัน เช่น มีความเครียด, มีประจำเดือนผิดปกติ ทางการแพทย์จะเรียกอาการผิดปกติก่อนเป็นประจำเดือนนี้ว่า Premenstrual Syndrome หรือ PMS บางกรณีก็เกิดจากการที่สาวๆบางคนมีฮอร์โมนเพศชายในสัดส่วนที่มากกว่าฮอร์โมนเพศหญิงคือ มีผิวที่มัน, รูขุมขนกว้าง, ขนดก ซึ่งลักษณะของสิวฮอร์โมนนี้จะเป็นสิวอักเสบ มีตุ่มแดงขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะขึ้นบริเวณรอบปาก คาง แก้ม และมักจะขึ้นตอนช่วงก่อนมีประจำเดือน

รักษาสิวฮอร์โมนยังไงให้หาย?

การรักษาสิวฮอร์โมน

1 ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน

การล้างหน้าตอนเช้าและตอนกลางคืนก่อนเข้านอนด้วยสบู่ที่อ่อนโยนช่วยให้สิวฮอร์โมนลดลงได้ และระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงการขัดหน้าไปก่อน เพราะจะทำให้ผิวหน้าระคายเคือง อาจทำให้สิวหายยากหรือเป็นหนักกว่าเดิม นอกจากนี้เวลาล้างหน้าก็ให้ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าและก็ไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้งด้วยค่ะ

2 เช็ดหน้าด้วยน้ำมันยูคาลิปตัส

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าน้ำมันยูคาลิปตัสสามารถนำมาใช้รักษาสิวได้ สำหรับการเช็ดหน้าด้วยน้ำมันยูคาลิปตัสนั้นก็ให้หยดน้ำมันยูคาลิปตัส 3 – 4 หยด ลงในน้ำครึ่งถ้วย จากนั้นก็นำเช็ดบริเวณที่มีสิวได้เลย หรือจะนำมาพ่นที่ใบหน้าก็ได้

3 ใช้น้ำมะนาว

มีงานวิจัยเผยว่าน้ำมะนาวสามารถช่วยต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้ ฉะนั้นใครที่เป็นสิวฮอร์โมนลองใช้วิธีนี้ในการรักษาสิวฮอร์โมนดู โดยการทาน้ำมะนาวบริเวณที่เกิดสิว ก็จะช่วยให้สิวฮอร์โมนหายเร็วขึ้น

4 ใช้น้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล

หรือที่เรียกกันว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์นั่นแหละ มีงานวิจัยเผยว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยลดการเกิดสิวฮอร์โมนได้เป็นอย่างดี ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส รวมถึงมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย P. acnes ที่เป็นสาเหตุของสิว รวมถึงช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียได้ด้วย และช่วยขับน้ำมันส่วนเกินออกจากผิวหน้าได้อีกต่างหาก

5 ใช้อบเชยและน้ำผึ้ง

ทั้งน้ำผึ้งและอบเชยต่างมีฤทธิ์ช่วยต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอย่าง Staphylococcus epidermidis และ Propionibacterium acnes ได้ วิธีการรักษาสิวฮอร์โมนก็ให้ทาน้ำผึ้งและอบเชยลงบนสิว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วค่อยล้างออก โดยให้ทำเพียงวันละ 1 ครั้งพอ

6 ใช้ขมิ้น

ขมิ้นนี่สารพัดประโยชน์จริงๆ ทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ, กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย, ช่วยเรื่องผิวพรรณ แล้วยังนำมากำจัดสิวได้ด้วย มีงานวิจัยเผยว่าสารสกัดจากขมิ้นสามารถช่วยยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductase และลดการผลิตซีบัมได้ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการอักเสบของสิวได้ด้วย วิธีการรักษาสิวฮอร์โมนก็ให้นำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็ทาไปตรงบริเวณที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อแห้งก็ไปล้างออก

ภาพจาก https://www.tsood.com

7 ชาเขียวรักษาสิวฮอร์โมนได้

สาวๆรู้หรือไม่ว่าชาเขียวก็ช่วยรักษาสิวฮอร์โมนได้ด้วยนะ มีงานวิจัยพบว่าการทาชาเขียวเป็นเวลา 15 วัน สามารถช่วยลดการผลิตซีบัมได้มากถึง 27% เนื่องจากชาเขียวจะช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตซีบัมออกมามากขึ้น เพียงแค่เรานำน้ำชาเขียวมาทาบริเวณหัวสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก ก็ช่วยให้สิวยุบตัวลงได้เร็ว นอกจากนี้ยังมีการทดลองพบว่าการผสมชาเขียวกับสารสกัดจากดอกบัว จะให้ผลดียิ่งขึ้นกว่าการใช้ชาเขียวเพียงอย่างเดียว

8 มาร์คหน้าด้วยโคลนและน้ำมันโจโจ้บา

น้ำมันโจโจ้บาและโคลนมีคุณสมบัติช่วยรับมือกับสิวฮอร์โมน โคลนช่วยทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง ส่วนน้ำมันโจโจ้บามีสารต้านการอักเสบและสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ให้มาร์คหน้าด้วยสูตรนี้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ก็ช่วยลดรอยสิวได้ถึง 54% เลยล่ะ

9 มาร์คหน้าด้วยอะโวคาโด

น้ำมันหรือสีผึ้งที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากอะโวคาโดจะไปช่วยยับยั้งเอนไซม์ 5-α reductase ที่มีความเกี่ยวข้องกับจำนวนของสิวหัวหนองและสิวที่เป็นตุ่ม วิธีการรักษาสิวฮอร์โมนให้นำเนื้ออะโวคาโดที่สุกแล้วมาทาบริเวณหัวสิววันละ 2 ครั้ง เมื่อแห้งแล้วค่อยล้างออก

10 ใช้ครีมรักษาสิว

ครีมรักษาสิวมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ การนำมาแต้มหรือทาเป็นประจำทุกครั้งหลังล้างหน้าหรือตอนที่สิวเริ่มขึ้น ก็จะช่วยบรรเทาอาการสิวให้ทุเลาลงได้

11 ทานยารักษาสิว

การทานยาจะช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้อยู่ในภาวะที่เป็นปกติและมีความสมดุลได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ เพราะการทานยารักษาสิวอาจส่งผลต่อตับ ไตและการตั้งครรภ์ได้

12 ดูแลตัวเองให้มากขึ้น

การทานผักผลไม้สดๆ ออกกำลังกายให้มากขึ้น ลดการดื่มแอลกอฮฮล์ และงดการสูบบุหรี่ ก็เป็นการช่วยปรับฮอร์โมนให้กลับมาสมดุลและเข้าสู่ภาวะปกติ สิวฮอร์โมนก็จะไม่เกิด

13 เลเซอร์รักษาสิว

วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด ช่วยลดการอักเสบของสิวและช่วยให้รอยแดงจากสิวลดลงได้จริง แต่มีราคาที่ค่อนข้างสูง

หากเราเข้าใจสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมนและรู้วิธีการรักษาสิวฮอร์โมน ก็จะช่วยให้สิวฮอร์โมนไม่เกิดขึ้นที่ใบหน้าอีกต่อไป ที่สำคัญเลยคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด แค่นี้สิวฮอร์โมนก็ไม่มากวนใจแล้วล่ะ