จมูกเป็นอวัยวะที่คนนิยมไปศัลยกรรมกันมากที่สุด และเป็นอวัยวะที่คนไปแก้กันเยอะที่สุดเหมือนกัน นั่นเป็นเพราะทำออกมาแล้วไม่สวยตามที่หวังไว้ หรือจมูกเบี้ยว โคนเบี้ยว ไม่เป็นธรรมชาติ และอีกหลายๆเหตุผล เหตุผลหลักๆก็คือไม่พอใจนั่นแหละ ในเมื่อไม่พอใจ ก็ต้องไปแก้สถานเดียว แล้วจะแก้ยังไงดีล่ะ วันนี้เรามีคำตอบค่ะว่าทำไมทำจมูกออกมาแล้วมันถึงเบี้ยว และวิธีแก้จมูกเบี้ยวต้องทำยังไงกันบ้าง
จมูกเบี้ยวเกิดจากอะไร ทั้งที่ตอนแรกทำออกมาก็เหมือนตรงแล้ว?
- เกิดจากการที่ฐานจมูกเดิมคดเอียงอยู่แล้ว เมื่อวางซิลิโคนเข้าไป จึงทำให้ซิลิโคนเอียงตามฐานจมูกเดิมนั่นเอง
- กระดูกบริเวณส่วนกลางนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนลงไป ทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปข้างหลัง จนเกิดจมูกเบี้ยวในที่สุด
- ศัลยแพทย์ตกแต่งซิลิโคนยาวเกินพอดี ทำให้เกิดการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือบางรายอาจเกิดซิลิโคนทะลุได้
- โพรงจมูกซ้าย ขวา ไม่เท่ากัน จึงเป็นสาเหตุของจมูกเบี้ยวได้
แล้วจะแก้จมูกเบี้ยวยังไงดี?
การแก้จมูก ส่วนมากศัลยแพทย์จะทำการแก้ไขโดยวิธีการผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) โดยศัลยแพทย์จะทำการเอาซิลิโคนเก่าและพังผืดออก จากนั้นก็ทำการปรับโครงสร้างจมูกใหม่ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ในกรณีที่ไม่มีการติดเชื้อ ศัลยแพทย์ก็จะทำการใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปเลย แต่หากมีอาการติดเชื้อ ศัลยแพทย์ก็จะทำการรักษาอาการติดเชื้อให้เสร็จก่อน
ข้อดีของการแก้จมูกแบบนี้คือ เป็นการปรับทรงจมูกที่ใหญ่ให้เล็กลงได้ จมูกที่สั้นก็ยาวขึ้น ทรงจมูกที่คดก็ทำให้ตรงได้ ส่วนข้อเสียของมันคือ พักฟื้นเพื่อตัดไหมนานกว่าการทำจมูกแบบธรรมดา และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างจะสูง เพราะเป็นเคสแก้ ต้องใช้ฝีมือในการทำอย่างประณีต
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมแก้จมูกเบี้ยว
ภาพจาก www.kapook.com
- งดทานยาที่รบกวนระบบไหลเวียนเลือด หากมีโรคประจำตัวก็ให้แจ้งศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 วันล่วงหน้าก่อนการผ่าตัด
- งดทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด แต่หากเป็นกรณีดมยาสลบให้งดทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
การดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมแก้จมูกเบี้ยว
- ไม่ควรจับหรือสัมผัสบริเวณแผลผ่าตัด
- หากมีเลือดไหลออกจากจมูกประมาณ 1 – 2 วันหลังการผ่าตัด ให้เช็ดออกอย่างเบามือจากผิวภายนอกจมูก
- หยุดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนหลังการผ่าตัด
- หลังวันผ่าตัด ให้ใช้ถุงประคบเย็นบริเวณใบหน้า ก็จะช่วยลดอาการบวมได้ดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายแบบหนักๆไปก่อนในช่วงระยะเวลา 1 เดือนนี้