ตาบวม

สาเหตุ ป้องกัน รักษา ปวดตาข้างเดียว

เชื่อว่าสาวๆคงเคยมีอาการปวดตาข้างเดียว ตาบวม กันใช่มั๊ยคะ? แล้วเราสงสัยมั๊ยว่าสาเหตุที่ทำให้เราปวดตาหรือตาบวมนั้นจริงๆแล้วเกิดจากอะไรกันแน่ จะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายของเราหรือเปล่า วันนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัยถึงสาเหตุการปวดตาข้างเดียว ตาบวม ทำไงพร้อมวิธีการป้องกันและรักษากันค่ะ  ตาบวม คืออา การบวมน้ำ หรือการที่มีของเหลวสะสมอยู่ที่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆดวงตา มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณเปลือกตา

สาเหตุที่ทำให้ปวดตาข้างเดียว

  1. ร้องไห้อย่างหนัก การร้องไห้อย่างหนักจะทำให้เปลือกตาด้านล่างเกิดอาการบวมขึ้นมา เนื่องจากต่อมน้ำตาได้ผลิตน้ำตาออกมามากเกินไป
  2. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป สาวคนไหนที่เป็นสายปาร์ตี้ลองสังเกตตัวเองมั๊ยคะว่า เวลาดื่มเหล้าหนักๆมา ตื่นมาตอนเช้าแล้วตาเกิดอาการบวม นั่นเป็นเพราะว่าแอลกอฮอล์เป็นสารประกอบที่ทำให้ขาดน้ำ เมื่อดื่มมากไป ร่างกายก็เกิดการชดเชย จึงเป็นสาเหตุของตาบวมนั่นเอง
  3. อยู่ในวัยสูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ดวงตาก็จะเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ประสิทธิภาพก็จะลดน้อยลง และอาจมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความเครียด,ภาวะทุพโภชนาการ หรือขาดการพักผ่อนที่เพียงพอในวัยหนุ่มสาว พออยู่ในวัยสูงอายุตาจึงมีอาการบวม
  4. ตากุ้งยิง เป็นโรคตากุ้งยิงทำให้ตาบวมได้ และเป็นโรคที่ทำให้เจ็บดวงตามากที่สุด คนที่เป็นตากุ้งยิงมักจะมีการอับเสบสีแดงบริเวณเปลือกตาและบอบบางมากเมื่อเกิดการสัมผัส
  5. อาการบาดเจ็บดวงตา ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ตาบวมได้
  6. เกิดการแพ้อะไรบางอย่าง หากตาบวมจากการใช้อายไลเนอร์ มาสคาร่า หรือครีมบำรุง หมายความว่าเราแพ้สารเคมีแน่นอน
  7. ภาวะฮอร์โมนบกพร่อง การที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปเป็นสาเหตุทำให้ตาบวมได้ การที่เราเห็นภาพซ้อน ดวงตาปูดหรือหนังตาตก สาเหตุก็เพราะภาวะฮอร์โมนบกพร่องนั่นเอง
  8. เนื้อเยื่อตาอักเสบ หากอาการตาบวมเกิดจาก อาการคันที่ดวงตา ตาแดงหรือน้ำตาไหล อาจเกิดจากการที่เนื้อเยื่อตาอักเสบ

การป้องกันตาบวม

ภาพจาก https://health.mthai.com

การป้องกันตาบวม

โดยมากอาการตาบวมมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่หากมีอาการตาบวมอยู่ ก็ให้ป้องกันและดูแลตัวเอง ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น ครีมบำรุง เครื่องสำอาง เป็นต้น
  2. เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าอยู่เสมอ
  3. หากตาบวมเพราะร้องไห้ ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอน
  4. ใช้ยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูด
  5. หากเป็นภูมิแพ้ควรดูแลและควบคุมอาการ โดยการทานยาหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้
  6. ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา

วิธีรักษาอาการตาบวม

ภาพจาก https://sistacafe.com

วิธีรักษาอาการตาบวม

การรักษาอาการตาบวมนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆ ดังนี้

  1. ตากุ้งยิง หากเอาหนองออกแล้ว อาการจะดีขึ้น ในช่วงแรกอาจต้องประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการก่อน ส่วนมากจะหายได้เองเพียงไม่กี่วัน แต่ในระหว่างที่เป็นตากุ้งยิงให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อน เพราะอาจทำให้ติดเชื้อซ้ำได้
  2. ซีสต์ ส่วนมากซีสต์จะหายเองภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจมีตุ่มแข็งขึ้น เราสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบตา เพราะความอุ่นจะช่วยในเรื่องการหลั่งน้ำมันและการอุดตันบริเวณตาได้ ให้ประคบวันละ 4 – 5 ครั้ง แต่หากไม่ดีขึ้น ก็ให้ไปพบแพทย์ ให้แพทย์ช่วยระบายของเหลวออกมา
  3. เยื่อบุตาอักเสบ ให้ดูแลตัวเองเบื้องต้นโดยการทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น ระหว่างที่เป็นก็ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา รวมไปถึงหยุดใช้เครื่องสำอางที่เกี่ยวกับดวงตา และไม่ใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าอาการจะดีขึ้น ส่วนใหญ่อาการมักจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ เพียงแต่ต้องหมั่นดูแลความสะอาดเท่านั้น
  4. ติดเชื้อของผิวหนังและเนื้อเยื่ออย่างเฉียบพลัน จะมีอาการตาแดงและรู้สึกเจ็บตา จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ แต่หากมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ขยับดวงตาไม่ได้ การมองเห็นไม่ชัด ก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน