เชื่อว่าสาวๆคงเคยมีอาการปวดตาข้างเดียว ตาบวม กันใช่มั๊ยคะ? แล้วเราสงสัยมั๊ยว่าสาเหตุที่ทำให้เราปวดตาหรือตาบวมนั้นจริงๆแล้วเกิดจากอะไรกันแน่ จะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายของเราหรือเปล่า วันนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัยถึงสาเหตุการปวดตาข้างเดียว ตาบวม ทำไงพร้อมวิธีการป้องกันและรักษากันค่ะ ตาบวม คืออา การบวมน้ำ หรือการที่มีของเหลวสะสมอยู่ที่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆดวงตา มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณเปลือกตา
สาเหตุที่ทำให้ปวดตาข้างเดียว
- ร้องไห้อย่างหนัก การร้องไห้อย่างหนักจะทำให้เปลือกตาด้านล่างเกิดอาการบวมขึ้นมา เนื่องจากต่อมน้ำตาได้ผลิตน้ำตาออกมามากเกินไป
- ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป สาวคนไหนที่เป็นสายปาร์ตี้ลองสังเกตตัวเองมั๊ยคะว่า เวลาดื่มเหล้าหนักๆมา ตื่นมาตอนเช้าแล้วตาเกิดอาการบวม นั่นเป็นเพราะว่าแอลกอฮอล์เป็นสารประกอบที่ทำให้ขาดน้ำ เมื่อดื่มมากไป ร่างกายก็เกิดการชดเชย จึงเป็นสาเหตุของตาบวมนั่นเอง
- อยู่ในวัยสูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ดวงตาก็จะเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ประสิทธิภาพก็จะลดน้อยลง และอาจมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความเครียด,ภาวะทุพโภชนาการ หรือขาดการพักผ่อนที่เพียงพอในวัยหนุ่มสาว พออยู่ในวัยสูงอายุตาจึงมีอาการบวม
- ตากุ้งยิง เป็นโรคตากุ้งยิงทำให้ตาบวมได้ และเป็นโรคที่ทำให้เจ็บดวงตามากที่สุด คนที่เป็นตากุ้งยิงมักจะมีการอับเสบสีแดงบริเวณเปลือกตาและบอบบางมากเมื่อเกิดการสัมผัส
- อาการบาดเจ็บดวงตา ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ตาบวมได้
- เกิดการแพ้อะไรบางอย่าง หากตาบวมจากการใช้อายไลเนอร์ มาสคาร่า หรือครีมบำรุง หมายความว่าเราแพ้สารเคมีแน่นอน
- ภาวะฮอร์โมนบกพร่อง การที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปเป็นสาเหตุทำให้ตาบวมได้ การที่เราเห็นภาพซ้อน ดวงตาปูดหรือหนังตาตก สาเหตุก็เพราะภาวะฮอร์โมนบกพร่องนั่นเอง
- เนื้อเยื่อตาอักเสบ หากอาการตาบวมเกิดจาก อาการคันที่ดวงตา ตาแดงหรือน้ำตาไหล อาจเกิดจากการที่เนื้อเยื่อตาอักเสบ
ภาพจาก https://health.mthai.com
การป้องกันตาบวม
โดยมากอาการตาบวมมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่หากมีอาการตาบวมอยู่ ก็ให้ป้องกันและดูแลตัวเอง ดังนี้
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น ครีมบำรุง เครื่องสำอาง เป็นต้น
- เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าอยู่เสมอ
- หากตาบวมเพราะร้องไห้ ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอน
- ใช้ยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูด
- หากเป็นภูมิแพ้ควรดูแลและควบคุมอาการ โดยการทานยาหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้
- ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา
ภาพจาก https://sistacafe.com
วิธีรักษาอาการตาบวม
การรักษาอาการตาบวมนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆ ดังนี้
- ตากุ้งยิง หากเอาหนองออกแล้ว อาการจะดีขึ้น ในช่วงแรกอาจต้องประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการก่อน ส่วนมากจะหายได้เองเพียงไม่กี่วัน แต่ในระหว่างที่เป็นตากุ้งยิงให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปก่อน เพราะอาจทำให้ติดเชื้อซ้ำได้
- ซีสต์ ส่วนมากซีสต์จะหายเองภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจมีตุ่มแข็งขึ้น เราสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบตา เพราะความอุ่นจะช่วยในเรื่องการหลั่งน้ำมันและการอุดตันบริเวณตาได้ ให้ประคบวันละ 4 – 5 ครั้ง แต่หากไม่ดีขึ้น ก็ให้ไปพบแพทย์ ให้แพทย์ช่วยระบายของเหลวออกมา
- เยื่อบุตาอักเสบ ให้ดูแลตัวเองเบื้องต้นโดยการทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น ระหว่างที่เป็นก็ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา รวมไปถึงหยุดใช้เครื่องสำอางที่เกี่ยวกับดวงตา และไม่ใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าอาการจะดีขึ้น ส่วนใหญ่อาการมักจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ เพียงแต่ต้องหมั่นดูแลความสะอาดเท่านั้น
- ติดเชื้อของผิวหนังและเนื้อเยื่ออย่างเฉียบพลัน จะมีอาการตาแดงและรู้สึกเจ็บตา จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ แต่หากมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ขยับดวงตาไม่ได้ การมองเห็นไม่ชัด ก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน