มะเร็งเต้านมถือเป็นโรคยอดฮิตของผู้หญิงอีกโรคหนึ่งเลย เป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงเป็นอันดับต้นๆของโลกและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี แต่ใช่ว่าจะมีแต่ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมนะ ผู้ชายก็เป็นได้เหมือนกันแต่มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเกิดจากต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม จึงมีโอกาสมากที่จะพบมะเร็งในเต้านมทั้งสองข้างค่ะ หากเราตรวจพบมะเร็งเต้านมก่อนในระยะแรก ก็จะทำให้มีโอกาสที่จะรักษาได้สูง แต่หากมาเจอตอนมะเร็งลุกลามไปแล้วก็จะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่เกิน 5 ปี ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้ ฉะนั้นเราควรจะมารู้จักโรคนี้กันให้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นโรคนี้กันค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
- มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้ากว่าอายุ 55 ปี
- ผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จะพบความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม โดยคนที่เป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็มีความเสี่ยง 3 ใน 4 ที่จะเกิดก้อนมะเร็งขึ้นอีกข้าง
- มีประวัติเป็นมะเร็งรังไข่ เพราะมะเร็งรังไข่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฮอร์โมน จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงขึ้นไปอีก
- ทำแมมโมแกรมแล้วพบความผิดปกติ
- การสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง พบว่าการสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลานาน ช่วยเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมได้
- การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
- การมีประวัติมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ในครอบครัวตั้งแต่อายุน้อย
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้หญิงที่อ้วน มีน้ำหนักเกินมาตรฐานและชอบทานอาหารที่มีไขมันสูงอยู่เป็นประจำ
- มีการให้รังสีรักษาที่เต้านมหรือทรวงอก
อาการของมะเร็งเต้านม
- พบก้อนหนาๆผิดปกติในเต้านมหรือใต้แขน
- มีน้ำเหลืองและเลือดไหลจากหัวนม
- ผิวหนังบริเวณเต้านมเปลี่ยนไป ทั้งรอยบุ๋มหรือผิวหนังบวมตึงคล้ายผิวเปลือกส้ม
- หัวนมถูกดึงรั้นผิดปกติ
- ขนาดและรูปร่างของนมผิดปกติ
- รู้สึกปวดบริเวณเต้านม
- ผิวหนังบริเวณหัวนมมีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีผื่นคันที่เป็นๆหายๆ
ระยะของมะเร็งเต้านม
ความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านมมีอยู่ 4 ระยะด้วยกัน ดังนี้
ระยะที่ 1 จะพบเซลล์ผิดปกติภายในเนื้อเยื่อเต้านม และก้อนเนื้อจะมีขนาดไม่เกิน 2 ซม. แต่ยังไม่ลุกลามไปที่อื่นๆ ยังจำกัดการเกิดเฉพาะภายในเต้านมอยู่
ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งจะมีขนาดโตขึ้นกว่าเดิม และอาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ แต่จะมีแค่ไม่กี่ต่อมหรืออาจไม่พบก้อนเนื้อก็ได้ แต่จะพบเซลล์มะเร็งบริเวณต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้
ระยะที่ 3 ระยะนี้เนื้อเยื่อเต้านมจะถูกทำลายเป็นบริเวณกว้างถึงชั้นผิวหนัง จนเกิดเป็นแผลขึ้นมา ก้อนมะเร็งก็โตขึ้นกว่าเดิมถึง 5 ซม. ลุกลามไปติดกล้ามเนื้อหน้าอกแล้วแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้และต่อมน้ำเหลืองอื่นในบริเวณใกล้เคียงเต้านม และมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองจำนวนมากขึ้น
ระยะที่ 4 โรคจะแพร่กระจายเข้าหลอดเลือดไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ปอด ตับ กระดูก ระยะนี้เป็นระยะที่รักษาไม่หายขาด
ภาพจาก goodeatingwellbeing.com
การวินัจฉัยโรคเบื้องต้น
การตรวจประเมินเบื้องต้น จะทำให้เราพบมะเร็งเต้านมในระยะต้นๆได้ และการรักษาก็มีโอกาสประสบผลสำเร็จสูง
- คลำเต้านมด้วยตนเอง
- เข้ารับการตรวจด้วยวิธีแมมโมแกรม (Mammogram) วิธีนี้ขอแนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปเข้ารับการตรวจด้วยวิธีนี้เป็นประจำทุกๆ 1 – 2 ปี
- เข้ารับการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์และ MRI วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่ผลของแมมโมแกรมตรวจพบความผิดปกติและต้องการตรวจหาเพื่อให้ได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้น
การรักษามะเร็งเต้านม
- การผ่าตัดเป็นจุดเริ่มต้นของการรักษามะเร็งเต้านม ทุกขั้นตอนต้องมีการวางแผนอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดวิธีไหนก็ตามทั้งการผ่าตัดแบบตัดออกทั้งหมดหรือการผ่าตัดแบบสงวนเต้า โดยอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของทีมแพทย์และความต้องการของผู้ป่วย เพื่อการวางแผนการรักษาผู้ป่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
- การฉายแสง หลังการผ่าตัดสงวนเต้าต้องมีการฉายแสง หากก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่หรือมีการกระจายของเซลล์มะเร็งไปที่ต่อมน้ำเหลือง
- การใช้ยาเคมีบำบัดและยาต้านฮอร์โมนหลังผ่าตัด ในกรณีที่ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. หรือมีการกระจายเซลล์มะเร็งไปที่ต่อมน้ำเหลือง
ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เนื่องมาจากการรักษา ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนแรงลง ทานอาหารได้น้อย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับหรือมีปัญหาทางด้านอารมณ์ มีภาวะบวมน้ำเหลืองในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม เนื่องมาจากท่อน้ำเหลืองเกิดการอุดตันจนทำให้มีการคั่งของน้ำเหลืองบริเวณนั้นมาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดมะเร็งบริเวณส่วนอื่นๆของร่างกายได้ ในกรณีที่มะเร็งเกิดการลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะนั้นๆค่ะ
การป้องกันมะเร็งเต้านม
- รับประทานผักและผลไม้ให้ครบ 5 หมู่
- ควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้น้ำหนักเกินเกณฑ์
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
ที่มา : https://www.pobpad.com,http://www.bkh.co.th,https://www.bumrungrad.com
ขอบคุณภาพ : HonestDocs