ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการโอบกอดเป็นอะไรที่ทำให้หัวใจอบอุ่น รู้สึกถึงความรัก ความผูกพันระหว่างคนกอดกับคนถูกกอด โดยเฉพาะการที่พ่อแม่กอดลูก มันไม่ใช่แค่เป็นเพียงการแสดงความรักหรือการกระตุ้นบทบาทของพ่อกับแม่เท่านั้น แต่มันมีข้อดีมากกว่านี้อีกเยอะเลยล่ะค่ะ ว่าแล้ว เราไปดูข้อดีของการกอดลูกกันดีกว่า ว่ามันเป็นยาวิเศษที่ดีต่อร่างกายและจิตใจเราขนาดไหน
ผ่อนคลายความเครียด
สังเกตมั๊ยคะว่าเจ้าตัวเล็กจะชอบงอแงให้เรากอดเขาตอนนอน พอเรากอดเด็กก็จะหยุดร้องไห้ แล้วสงบลงอย่างเหลือเชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าเขาสุขใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่นั่นเอง เหมือนเราเวลาเครียดๆมา พอได้เห็นหน้าลูก ได้กอดลูก ก็รู้สึกว่าความเครียดทั้งหมดที่สะสมมาก็หายไป มันเหมือนเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ
กระตุ้นการทำงานของปอดและหัวใจ
ตอนที่แม่อุ้มลูกน้อยไว้ตรงแนบอก ลูกจะได้ยินเสียงชีพจรเราอย่างชัดเจน แล้วเด็กจะเริ่มหายใจตามจังหวะการเต้นของหัวใจแม่โดยอัตโนมัติเลย เราถึงอยากให้คุณแม่อุ้มลูกบ่อยๆ เพื่อเป็นการฝึกปอด หัวใจ และระบบการหายใจของลูกให้เป็นปกติ คุณแม่อาจตบหลังลูกน้อยเบาๆเป็นจังหวะไปด้วยก็ได้ค่ะ
แม่ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น
ภาพจาก thaihealth.or.th
เมื่อคุณกอดลูกด้วยความรัก สมองจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินหรือฮอร์โมนแห่งความรักออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยให้แม่ผลิตน้ำนมได้เยอะขึ้นและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกได้รับน้ำนมเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ทั้งนี้ยังเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรงอีกด้วย
ลดอาการปวดเมื่อย
หากคุณรู้สึกปวดเมื่อย ไม่ต้องไปหายามาทาหรือกิน เพียงแค่กอดลูก ความปวดเมื่อยของคุณจะเบาบางลง นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายได้หลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมานั่นเอง กล้ามเนื้อส่วนต่างๆจึงรู้สึกผ่อนคลายลงไปด้วย
เสริมภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง
เมื่อเรากอดลูกแบบเนื้อตัวสัมผัสกัน พลังงานของเราจะถูกส่งผ่านไปยังร่างกายของลูก ระหว่างที่กอดลูกแนะนำให้ใช้ฝ่ามืออุ่นๆ กดลงที่บริเวณหน้าอกลูกเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นจุดศูนย์กลางของร่างกาย ควบคุมและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สมดุล ร่างกายของลูกก็จะพร้อมต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายได้ดีค่ะ
ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
ด้วยความที่เด็กทารกมีผิวที่อ่อนแอและบอบบาง ทำให้รับมือกับสภาพอากาศได้ดีไม่เท่าผู้ใหญ่ ฉะนั้นการสัมผัสหรือการกอดลูกบ่อยๆ โดยเฉพาะหน้าหนาว จะเป็นการรักษาความอบอุ่นและปรับอุณหภูมิของลูกน้อยให้สมดุลคงที่ได้
เป็นการลงโทษที่ดีที่สุด
บางทีลูกน้อยอาจจะทำผิดโดยไม่รู้ตัว แล้วเราก็ต้องการตักเตือนลูกว่าทำแบบนี้มันไม่ดี ไม่ต้องคว้าไม้เรียวมาตีหรือดุด่าว่ากล่าว ให้จับลูกน้อยมากอด เพราะการกอดเป็นการลงโทษที่ดีที่สุดและได้ผลดีกว่าการตีหรือดุด่า ความอบอุ่นจากการกอดจะทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาได้รับการอภัย ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะทอดทิ้ง เมื่อกอดแล้วก็ให้อธิบายว่าการกระทำของลูกมันไม่ดียังไง ลูกจะได้เข้าใจและจำเอาไว้เป็นบทเรียน ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำผิดอีกค่ะ
ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
ภาพจาก aiaplanner.com
เนื่องจากวัยทารกเป็นวัยที่ประสาทตาและหูยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ ทำให้รับความรู้สึกได้จากการสัมผัสเท่านั้น ฉะนั้นการที่คุณแม่นำลูกมากอด มาหอมด้วยความรักบ่อยๆ จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รวมถึงลูกจะงอแงน้อยลงด้วยค่ะ
ลูกรู้จักคุณค่าในตัวเอง
การที่เด็กเล็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดการงอแง เอาแต่ใจหรือเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ การกอดเขาด้วยความรักนี่แหละ ที่ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นคนสำคัญ ยังเป็นที่ต้องการและเป็นที่รักของพ่อแม่ โตขึ้นลูกก็จะเป็นคนมีความมั่นใจ มีความเชื่อมั่นและรู้จักคุณค่าของตัวเอง ยิ่งได้กอดลูกบ่อยๆ ก็จะเป็นการย้ำว่าลูกยังมีพ่อกับแม่ที่คอยเป็นห่วงและคอยให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเจอเรื่องแย่ๆมามากแค่ไหน พ่อกับแม่ก็พร้อมจะเติมเต็มความรักและอยู่ข้างๆลูกอยู่เสมอ
ข้อดีเยอะขนาดนี้ คุณแม่ต้องกลับไปกอดลูกบ่อยๆแล้ว เพราะมันเป็นยาวิเศษที่ถึงแม้เราจะเจอเรื่องแย่ๆมามากแค่ไหน เพียงเห็นหน้าลูก ได้คุยกับลูก ได้กอด ได้หอมลูกแค่นี้ ความเครียด ความเมื่อยก็หายไปราวกับปาฏิหาริย์เลยล่ะ