การคลอด

คลอดธรรมชาติกับผ่าคลอดเลือกแบบไหนดี

เมื่อคุณแม่ท้องแก่ใกล้จะคลอดลูก ก็คงมีคำถามตามมาว่าจะเลือกคลอดลูกแบบไหนดี ระหว่างคลอดแบบธรรมชาติหรือใช้วิธีการผ่าคลอด ในอดีตการผ่าคลอดเป็นวิธีที่หมอส่วนใหญ่จะสงวนเอาไว้ใช้เฉพาะกรณีจำเป็นจริงๆเท่านั้น เช่น ลูกออกทางช่องคลอดไม่ได้เพราะตัวใหญ่, ลูกเอาก้นลงมาทางช่องคลอดแทนที่จะเอาหัวลงมา หรือกรณีที่แม่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และลูกในท้องไม่แข็งแรงเสี่ยงที่จะขาดออกซิเจน กรณีเช่นนี้หมอก็จะทำการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก

ในปัจจุบันการผ่าคลอดเป็นวิธีที่นิยมมาก เพราะการผ่าคลอดในปัจจุบันนี้มีความปลอดภัยสูงกว่าแต่ก่อน ทั้งยังสามารถเลือกวัน เวลาเกิดให้ลูกได้ คุณแม่บางคนก็มีปัญหาบ้านอยู่ไกลโรงพยาบาล หรือมีปัญหาสภาพการจราจร หากเจ็บท้องคลอดขึ้นมากว่าจะเดินทางถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงหรือหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง เลยเลือกใช้วิธีการผ่าคลอดเอา 

เพื่อให้คุณแม่เห็นภาพว่าการคลอดธรรมชาติกับการผ่าคลอดแบบไหนจะดีกว่ากัน เรามาดูข้อดี – ข้อเสียของการทำคลอดแต่ละอย่างกันค่ะ

การคลอดแบบธรรมชาติ

การคลอดแบบธรรมชาติ

ข้อดี

  1. มดลูกเข้าอู่เร็ว ฟื้นตัวเร็ว เจ็บแผลหลังคลอดน้อยกว่าการผ่าคลอด
  2. มีการขับของเหลวออกจากปอดของทารก จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการหายใจเมื่อแรกคลอด
  3. ทารกได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ดีที่อยู่ในช่องคลอดแม่ ทำให้มีภูมิคุ้มกัน ไม่เจ็บป่วยบ่อย
  4. ราคาทำคลอดถูกกว่า

ข้อเสีย

  1. เสี่ยงต่อการยืดและฉีกขาดของเนื้อเยื่อในช่องคลอด
  2. เสี่ยงต่อการหย่อนของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่ทำหน้าที่ควบคุมปัสสาวะและการเคลื่อนไหวของลำไส้
  3. มีการเจ็บท้องมากในช่วงใกล้คลอด และยาวนานในช่วงท้องแรก
  4. บางครั้งทารกอาจต้องมีการใช้เครื่องมือ เช่น คีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศช่วยคลอด ที่จะเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บได้

การคลอดแบบผ่า

การผ่าคลอด

ข้อดี

  1. สามารถเลือกวันคลอดลูกตามฤกษ์ยามที่หามาได้
  2. ไม่เจ็บท้องนาน
  3. เหมาะกับคุณแม่ที่มีเชิงกรานแคบ และมีความเสี่ยงหากต้องคลอดเองตามธรรมชาติ เช่น คุณแม่ที่มีบุตรครั้งแรกตอนอายุ 50 ปี, คุณแม่ที่มีเนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่, ทารกไม่ยอมกลับหัว, รกเกาะต่ำ เป็นต้น

ข้อเสีย

  1. เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่เสียเลือดมากกว่า 2 เท่าของการคลอดแบบธรรมชาติ
  2. คุณแม่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากยาระงับความรู้สึกหรือยาสลบที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนทารกก็อาจเกิดการขาดออกซิเจนจนมีอาการตัวเขียวได้
  3. มีแผลที่หน้าท้องและมีแผลขนาดใหญ่ที่มดลูก
  4. คุณแม่อาจมีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างผ่าตัดหรือหลังผ่าตัด ในระยะยาวอาจเสี่ยงเป็นพังผืดหรือลำไส้อุดตัน
  5. ฟื้นตัวช้า และเจ็บแผลนานกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ
  6. ทารกอาจมีปัญหาการหายใจ และไม่ได้สัมผัสเชื้อแบคทีเรียชนิดดี จึงทำให้ทารกมีภูมิต้านทานต่ำ
  7. มีโอกาสเกิดภาวะรกเกาะต่ำ รกติด หรือตกเลือดหลังคลอดในครรภ์ต่อไปได้
  8. ค่าใช้จ่ายในการผ่าคลอดมีราคาที่แพงกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ

การคลอดแบบธรรมชาติเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้กับผู้หญิงทุกคน และมีความปลอดภัยสูงกว่าการผ่าคลอด แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ก็ได้ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การผ่าคลอดมีความปลอดภัยมากกว่าแต่ก่อน ฉะนั้นคุณแม่จะเลือกการคลอดแบบไหนก็ให้ปรึกษาหมอที่ฝากท้องไว้ก่อนจะดีกว่า เพื่อจะได้วิธีการคลอดที่เหมาะสมกับคุณแม่แต่ละคน แต่ไม่ว่าจะเลือกคลอดแบบไหน ยังไงเราก็ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูกค่ะ