เด็กหลายๆคนมีความฝัน แต่ก็มีเด็กอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าตัวเองอยากจะทำอะไร หรือเป็นอะไร ส่วนมากเด็กที่อยู่ชั้นมัธยมที่ไม่รู้ทิศทางของตัวเองว่าอยากเรียนต่ออะไรกันแน่มักเป็นเด็กที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับกลางถึงต่ำ ชอบเล่นเกม มีโลกส่วนตัวสูง ถามคำตอบคำ อย่างเช่นคุณแม่ถามลูกว่าเรียนจบชั้นมัธยมปลายอยากเรียนต่อคณะอะไร ลูกก็มักจะตอบปัดๆไป เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ หรือบางครั้งที่ลูกไม่รู้จะเรียนต่ออะไรดี อาจเป็นเพราะลูกมีความชอบ ความสนใจหลายอย่างก็ได้ เขาเลยไม่รู้ว่าควรจะเรียนคณะไหนถึงจะดีที่สุด ฉะนั้นเราในฐานะที่เป็นแม่ก็ควรจะช่วยลูกคิดและตัดสินใจเลือกคณะที่ใช่แม้ไม่รู้จะเรียนอะไร โดยใช้เกณฑ์ดังนี้
1.สายงานที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรง
คุณแม่ก็คงจะรู้ดีว่าตอนนี้โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน รวมไปถึงอาชีพใหม่ๆก็เกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะอาชีพที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีมีแนวโน้มว่าจะมาแรงกว่าอาชีพอื่นๆ เพราะปัจจุบันอะไรๆก็ใช้เทคโนโลยีแทนที่คนหมดแล้ว แต่คนควบคุมเทคโนโลยีก็ต้องมีอยู่ หากลูกของคุณแม่ชอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีอยู่แล้ว แนะนำเรียนสายนี้เลยค่ะ เวิร์คแน่
2.อาชีพที่ตลาดต้องการ
นอกจากสายงานที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรงแล้ว อาชีพที่ตลาดต้องการก็เป็นการันตีได้ว่าหลังจากลูกคุณแม่เรียนจบ จะมีงานทำและตลาดรองรับแน่นอน โดยที่คุณแม่สามารถพาลูกเข้าเว็บไซต์หางาน รับสมัครงาน ก็พอจะช่วยให้มองเห็นแนวโน้มหรือทิศทางความต้องการของตลาดได้ชัดเจนขึ้น
3.งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบ
การเลือกเส้นทางที่จะเรียนต่อเป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์และหาข้อมูลอย่างจริงจัง บางครั้งคุณแม่ก็พากันจริงจังกับลูกเกินไปจนปวดหัว บางทีก็อาจให้ลูกเลือกเรียนต่อตามหัวใจตัวเองบ้างก็ได้นะคะ อนาคตจะเป็นอะไรยังไง ลองเอาความชอบ กิจกรรม หรืองานอดิเรกที่ลูกรักมาจินตนาการเป็นเส้นทางเรียนหรืออาชีพที่ต้องอยู่กับมันในอนาคตดู ว่าจะมีความสุขกับมันมากน้อยแค่ไหน
4.แผนการเรียน
ถ้าไม่รู้จะเรียนต่ออะไรจริงๆ ก็เลือกเรียนต่อตามแผนการเรียนของตัวเองไปเลย หากลูกคุณแม่เรียนสายวิทย์-คณิต ก็ให้ลูกยื่นคณะทางวิทย์ เรียนศิลป์-ภาษา ก็เลือกสาขาทางด้านศิลปะ, นิเทศ, มนุษย์, สังคม หรือจะเลือกเรียนสายอาชีวะก็ได้
5.คนที่เป็นแรงบันดาลใจ
ไม่แปลกที่ลูกคุณจะเลือกไอดอล, ดารา, ศิลปิน, บุคคลสำคัญต่างๆ หรือพ่อแม่ญาติพี่น้อง มาเป็นแรงบันดาลใจในการเลือกเรียนต่อ เพราะมีหลายคนที่เลือกเดินตามเส้นทางของคนที่เป็นแรงบันดาลใจของเขาและประสบผลสำเร็จมีเยอะมาก
หวังว่าเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อนี้จะทำให้คุณแม่ช่วยลูกคิดและตัดสินใจได้นะคะว่าจะเลือกเรียนต่ออะไรดี แต่ไม่ว่าลูกจะเรียนต่ออะไร ถูกใจหรือไม่ถูกใจคุณแม่ หน้าที่ของเราก็คือซัพพอร์ตลูกให้ดีที่สุดค่ะ