มีบางคนที่ไม่ชอบออกนอกบ้านช่วงหน้าฝน อาจเพราะไม่ชอบบรรยากาศที่ครึ้มๆ และไม่อยากโดนฝนให้เปียกตัว ทำให้เนื้อตัวเฉอะแฉะ แต่บางคนกลับชอบเที่ยวในช่วงฤดูนี้มาก เพราะชอบสายฝนที่โปรยปราย และได้สัมผัสบรรยากาศหลังฝนตกที่ทั้งสดชื่นไปด้วยเมฆหมอก และความเขียวของภูเขา ป่าไม้ สำหรับคนที่มีใจรักการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนนี้ วันนี้เรามี 10 สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ที่จะพาคุณดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม จนหลงรักการท่องเที่ยวในฤดูนี้ซ้ำๆกันเลย
1. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาพจาก https://www.logisticstime.net
แน่นอนว่าพอคิดถึงการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน ใครๆก็คิดถึงอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่แรกกันทั้งนั้น ก็เพราะที่นี่เป็นอำเภอที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา มีทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้แต่ช่วงฤดูร้อน ที่นี่อากาศยังเย็นสบายเลย แต่หากได้มาเที่ยวช่วงฤดูฝนก็จะพิเศษหน่อยตรงที่เราจะได้เห็นหมอกจางๆปกคลุมทั่วบริเวณ เป็นภาพที่สวยงามมาก นอกจากนี้อำเภอเขาค้อยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, พระตำหนักเขาค้อ, อุทยานแห่งชาติเขาค้อ, จุดชมวิวกังหันลม, Amazing Dinosaur และยังมีร้านกาแฟสวยๆ รีสอร์ทบรรยากาศดีๆ ให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสอีกเพียบ
2. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาพจาก https://www.sanook.com
ภูทับเบิกก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนที่คนนิยมมาสูดอากาศบริสุทธิ์กัน ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดปี ฉะนั้นใครที่คิดมาเที่ยวที่นี่เตรียมพกเสื้อแขนยาวมาด้วยนะ ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ทั้งภูเขาจะรายล้อมไปด้วยกะหล่ำปลีลูกกลมสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งช่วงหน้าฝนจะมีหมอกตลอดทั้งวันให้ได้สัมผัสกันด้วย ซึ่งความพิเศษยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ในช่วงกลางคืนนักท่องเที่ยวจะได้พบกับดาวบนดิน ซึ่งดาวที่ว่าก็คือแสงไฟจากหมู่บ้านน้อยใหญ่เปล่งประกายอยู่เบื้องล่าง กลายเป็นแสงเล็กๆ เรียงรายไปทั่วเหมือนแสงดาวที่ดาษดื่นบนท้องฟ้านั่นเอง
3. บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพจาก https://www.kapook.com
ไปชมนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในประเทศที่บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่กัน ที่นี่บรรยากาศสวยสุดๆในช่วงหน้าฝน ทั้งความเย็นสบายสดชื่น ความสบายตาจากสีเขียวของทุ่งนาขั้นบันไดทั่วภูเขา ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ทะเลหมอกให้ได้ชมยามเช้า และชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ถ้าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจก็อาจมีโอกาสได้เจอกับทางช้างเผือกด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับกับความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบของที่นี่ บอกก่อนว่าใครที่ติดโซเชียลมาที่นี่ต้องงดนะ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจริงๆ ที่แทบไม่มีคลื่นโทรศัพท์เลย ไฟฟ้าก็แทบจะไม่มี การเที่ยวที่นี่จึงเน้นไปที่การเดินเที่ยวตามทุ่งนาขั้นบันได และชมความสวยงามของธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆรอบตัว เรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่ทั้งฮีลใจและกายได้ดีจริงๆ
4. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก https://www.prachachat.net
สังขละบุรีเป็นหมู่บ้านมอญขนาดเล็กใกล้ชายแดนเมียนมา ที่นี่เป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่คงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านเอาไว้ ในช่วงฤดูฝนตอนเช้าๆจะมีหมอกให้ได้ชม ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปเที่ยวกัน เช่น วัดวังก์วิเวการาม, น้ำตกเกริงกระเวีย, น้ำตกนพพิบูลย์, ด่านเจดีย์สามองค์, สะพานมอญ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมทำกิจกรรมต่างๆที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นตักบาตรในตอนเช้า, ล่องแพ, เดินป่า และพักผ่อนที่โฮมสเตย์ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง
5. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ภาพจาก http://hotelandresortthailand.com
วังน้ำเขียว ได้ชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพราะที่นี่มีโอโซนติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก อีกทั้งมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จนทำให้ใครๆก็อยากมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่ นอกจากนี้วังน้ำเขียวยังเหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งสวนดอกไม้, ฟาร์มออแกนิค, อ่างเก็บน้ำ, วัด, น้ำตก, อุทยาน หลากหลายสไตล์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกกัน ที่พักก็มีให้เลือกเยอะ อยู่ใกล้กรุงเทพอีกต่างหาก เดินทางสะดวก
6. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
ภาพจาก https://www.kapook.com
ในช่วงหน้าฝนแบบนี้การล่องแก่งก็น่าสนใจ โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก เพราะนอกจากจะได้ล่องแก่งแบบสนุกสนานแล้ว ยังได้ชมธรรมชาติที่เขียวชะอุ่ม สูดอากาศดีๆไปด้วย ซึ่งการล่องแก่งลำน้ำเข็กถือว่ามีความยากระดับ 5 ของการล่องแก่งอันดับต้นๆของสายน้ำในประเทศไทย ระยะทางของการล่องแก่งแม่น้ำเข็กนั้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร มีแก่งทั้งหมด 18 แก่ง ใช้เวลาล่องประมาณ 2-3 ชั่วโมง ฉะนั้นสายเที่ยวแอดเวนเจอร์ต้องห้ามพลาด
7. น้ำตกปาโจ จังหวัดนราธิวาส
ภาพจาก https://www.blockdit.com
น้ำตกปาโจมีทั้งหมด 4 ชั้น ในชั้นแรกจะมีขนาดใหญ่และสวยงดงามที่สุด เป็นความสวยของสายน้ำที่ไหลจากลานผาหินกว้าง สูงถึง 60 เมตรเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวในช่วงหน้าฝน ในเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำตกมีความสวยงามมากที่สุด บรรยากาศโดยรอบก็สดชื่น ด้วยป่าที่เขียวชอุ่ม เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์มาก นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด และสัตว์ต่างๆให้ได้ชมกันด้วย ใครที่อยากหลีกเลี่ยงคนเยอะและอยากสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ น้ำตกปาโจถือเป็นตัวเลือกที่ดี
8. อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว
ภาพจาก https://mgronline.com
อุทยานแห่งชาติปางสีดาเต็มไปด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ และทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีสัตว์หลากหลายชนิดอาศัยอยู่ เช่น ช้างป่า กระทิง เก้ง กวาง หมูป่า รวมถึงผีเสื้อ ที่มีเยอะมากหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ผีเสื้อมากกว่า 350 ชนิด จะมารวมตัวกัน นักท่องเที่ยวก็จะพากันมาถ่ายรูป และชื่นชมความสวยงามของมัน นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีน้ำตกปางสีดา และน้ำตกผาตะเคียนให้ได้เล่นน้ำกัน หรือใครอยากจะชมพรรณไม้ สามารถไปเที่ยวได้ที่ภูเขาเจดีย์ ที่มีก้อนหินรูปร่างแปลกตามองดูแล้วคล้ายกับภูหินร่องกล้าให้ชม และอีกที่คือ ทุ่งหญ้าบุตาปอด เป็นทุ่งหญ้ากว้างให้ได้สำรวจพรรณไม้และธรรมชาติ
9. สะปัน จังหวัดน่าน
ภาพจาก https://www.sanook.com
สะปันเป็นชื่อหมู่บ้านในจังหวัดน่าน ที่มีวิวสวยของขั้นบันได ขุนเขาที่สวยงาม บวกกับธรรมชาติที่สวยงามของต้นไม้ใบหญ้า และอากาศที่บริสุทธิ์ ยิ่งช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว ที่สะปันจะสวยงามเป็นพิเศษ มีทะเลหมอกให้ได้ชมกันด้วย ยิ่งทำให้หมู่บ้านนี้มีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือแม้แต่ตามถนน ที่หมู่บ้านนี้ก็จะล้อมไปด้วยธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่รวยธรรมชาติได้เลย
10. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภาพจาก https://www.kapook.com
แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่ามีโค้งเยอะที่สุด เดินทางลำบากที่สุด แต่ก็มีสิ่งสวยงามซ่อนอยู่ อย่างเช่น อำเภอปาย เป็นอำเภอที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว มาถึงแล้วคุ้มมากที่ได้เจอกับภาพของท้องทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ขุนเขาที่มีสายหมอกบางเบาล้อมรอบ บรรยากาศที่เงียบสงบ แต่สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ เช่น จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล, น้ำพุร้อนไทรงาม, บ้านสันติชล, วัดน้ำฮู, วัดศรีดอนชัย, สะพานประวัติศาสตร์ปาย, ถนนคนเดิน และอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่โปรดของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้ไม่ยาก