อาหารภาคกลางส่วนใหญ่มาจากในวัง แต่ละเมนูจะมีความสวยงาม ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน และอร่อยกลมกล่อม ส่วนแต่ละจังหวัดจะมีเมนูไหนขึ้นชื่อกันบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
1. ไส้กรอกปลาแนม จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ภาพจาก http://www.painaidii.com
ไส้กรอกปลาแนมเป็นอาหารโบราณ ทำจากปลาช่อน ข้าวคั่ว และหมู ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวกับส้มซ่า ให้รสหวานอมเปรี้ยว กินคู่กับไส้กรอกข้าวและไส้กรอกหมูแบบโบราณ จัดเป็นอาหารว่างหรือจะกินเป็นอาหารหลักก็อร่อย
2. แกงเขียวหวานกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร
ภาพจาก http://golocal.tourismthailand.org
ที่จังหวัดกำแพงเพชรคนนิยมปลูกกล้วยไข่กันมาก จึงนำกล้วยไข่มาทำเป็นอาหาร โดยเลือกที่เป็นผลห่ามมาทำแกงเขียวหวาน ให้รสชาติที่อร่อย หอมหวาน นอกจากนี้ยังเป็นอาหารสุขภาพด้วย แกงเขียวหวานกล้วยไข่ใครได้ชิมก็ติดใจ จนกลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร
3. สังขยาหน้าควายลุย จังหวัดชัยนาท
ภาพจาก https://world.kapook.com
อาหารชื่อแปลกนี้เป็นขนมไทยโบราณท้องถิ่นของจังหวัดชัยนาท วิธีการทำคือ นึ่งถั่วเขียวและเผือกให้สุก นำไปกวนกับกะทิสดให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลโตนดกวนจนเหนียวข้นเหมือนโคลน เวลากินก็ให้นำหน้าควายลุยมาโรยบนข้าวเหนียวมูล สาเหตุที่เรียกชื่อว่าข้าวเหนียวหน้าควายลุย ก็เพราะเมื่อกวนเสร็จแล้วดูเหมือนโคลนที่ถูกควายลุยนั่นเอง
4. ข้าวกระยาคู จังหวัดนครนายก
ภาพจาก https://www.facebook.com/eatandtrip
ข้าวกระยาคู หรือข้าวยาคู เป็นขนมอร่อยตำรับต้นโบราณ ที่สมัยนี้หากินยากแล้ว เนื่องจากเป็นขนมที่ทำได้เฉพาะช่วงก่อนฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ทำจากข้าวอ่อนที่ยังเป็นน้ำนมอยู่ มาต้มให้เละ เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก หรือใครได้ผ่านไปนครนายกก็แวะชิมเมนูต้นตำรับถึงที่ดู
5. ข้าวหลามบะจ่าง จังหวัดนครปฐม
ภาพจาก https://world.kapook.com
ใครได้ไปจังหวัดนครปฐมต่างพากันไปซื้อข้าวหลามบะจ่างกันทั้งนั้น เพราะหอม อร่อยกว่าข้าวหลามทั่วไป ซึ่งเอกลักษณ์ของข้าวหลามจังหวัดนครปฐมนั้นเขาจะใช้ใบตองแห้งปิดฝากระบอกเอาไว้เพื่อให้เกิดความหอมขณะเผา และป้องกันแมลงเข้าไปหลบในกระบอกด้วย อีกทั้งยังมีการใส่กะทิมากกว่าปกติจึงทำให้ข้าวหลามมีรสชาติหวาน มัน กลมกล่อมกำลังดี
6. ส้มตำไหลบัว จังหวัดนครสวรรค์
ภาพจาก https://www.wongnai.com
ไหลบัวเป็นหน่อของบัว หรือส่วนที่งอกขึ้นมาและจะเจริญเป็นต้นใหม่ต่อไป ลักษณะเป็นก้านยาวๆสีขาว เมื่อนำมากินจะมีความกรอบ นิยมนำมาทำแกงส้ม แกงเหลือง ต้มกะทิ หรือผัดน้ำมันกับเนื้อสัตว์ต่างๆ แต่ที่จังหวัดนครสวรรค์นั้น นิยมนำไหลบัวมาทำส้มตำแทนเส้นมะละกอ ความอร่อยก็ไม่แพ้กับส้มตำธรรมดาเลย นอกจากนี้ไหลบัวยังมีสรรพคุณทางยามากมาย ทั้งช่วยให้เจริญอาหาร แก้ท้องร่วง ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ บำรุงร่างกายอีกด้วย
7. ทอดมันหน่อกะลา จังหวัดนนทบุรี
ภาพจาก https://pantip.com/topic/36307290
ทอดมันหน่อกะลามีหน้าตาเหมือนกับทอดมันทั่วไป เพียงแต่แตกต่างตรงที่มีหน่อกะลาผสมอยู่ด้วย เมื่อเคี้ยวแล้วจะกรุบๆ ทอดมันหน่อกะลามีขายตั้งแต่ร้านริมถนนจนไปถึงระดับร้านอาหาร แต่ละร้านก็จะมีสูตรเฉพาะของใครของมัน แต่หากได้มาเที่ยวที่นนทบุรี ต้องห้ามพลาดลิ้มลองทอดมันหน่อกะลาเด็ดขาด
8. ข้าวแช่รามัญ จังหวัดปทุมธานี
ภาพจาก https://world.kapook.com
ข้าวแช่รามัญ หรือข้าวแช่มอญเดิมถูกใช้ในพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดิน เพราะเป็นอาหารที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำเป็นอย่างมาก ต้องคัดเลือกเมล็ดข้าวมาซาวน้ำ 7 ครั้ง หุงด้วยเตาไฟที่ตั้งกลางลานบ้าน แช่ด้วยน้ำมะลิหรือน้ำใบเตยให้หอม แล้วประดิษฐ์เครื่องเคียงทั้ง 7 อย่างให้พอเหมาะพอคำ เป็นการนำความสิริมงคลมาให้แก่คนกินและดีต่อสุขภาพด้วย
9. กุ้งเผา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพจาก https://www.edtguide.com
ที่อยุธยาอาหารขึ้นชื่อมากที่สุดของเขาก็คือกุ้งเผา เพราะเนื้อกุ้งมันทั้งสด เนื้อแน่น หวาน และน้ำจิ้มก็อร่อยเด็ดมากๆ แถมกุ้งแต่ละตัวก็ใหญ่ๆทั้งนั้น กุ้งเผาที่จังหวัดอื่นก็มี แต่หากจะให้อร่อยเต็มปากเต็มคำต้องที่อยุธยาเท่านั้น
10. ปลาร้าสับ จังหวัดพิจิตร
ภาพจาก https://www.คิดเป็น.com
ปลาร้าสับเป็นการนำปลาร้ามาปรุงโดยการสับรวมกับสมุนไพรอย่างตะไคร้ ใบมะกรูด ผิวมะกรูด กระชาย พริกขี้หนูสด กินคู่กับผักสดเพื่อเพิ่มความอร่อย หรือจะกินคู่กับแคบหมูและไข่ต้มก็อร่อยเหมือนกัน ปลาร้าสับที่จังหวัดอื่นก็อาจจะมี แต่ยังไงต้องมาชิมปลาร้าสับที่จังหวัดพิจิตรดู แล้วจะรู้ว่ารสชาติแซ่บขนาดไหน
11. ซี่โครงหมูแซ่บแห้ง จังหวัดพิษณุโลก
ภาพจาก http://golocal.tourismthailand.org
เมนูนี้ก็ไม่มีไรมากวัตถุดิบหลักก็คือซี่โครงหมู ความอร่อยก็อยู่ที่ซี่โครงหมูอีกนั่นแหละ ต้องนุ่ม และเปื่อยแบบพอดี ใครที่ผ่านไปพิษณุโลก ต้องลองไปทานเมนูนี้กันดู รับรองอร่อยแน่
12. ไก่ย่างข้าวเบือ จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาพจาก https://bungnamtao.com
ไก่ย่างข้าวเบือก็เหมือนกับไก่ย่างทั่วไป แต่พิเศษตรงที่ใช้ไก่บ้านมาทำ โดยใช้ปีก และหน้าอก นำไปย่างจนไฟสุก แล้วนำข้าวเบือ(ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวผสมพริก ตะไคร้หั่นฝอย ขิง ข่า กระเทียม เกลือ โขลกรวมกัน) มาทาพอกไว้ จากนั้นนำไปย่างให้สุกอีกครั้ง รสชาติก็จะเผ็ดๆ เค็มๆ มีกลิ่นหอมของเครื่องแกง นิยมกินกับข้าวเหนียวร้อนๆหรือข้าวหลาม
13. แกงมันนก จังหวัดลพบุรี
ภาพจาก https://www.tatcontactcenter.com
มันนกมีลักษณะเป็นรูปไข่ เปลือกมีสีเหลืองอมน้ำตาล พบได้ตามที่ลุ่มชุ่มชื้นโดยเฉพาะบริเวณหนองน้ำ ริมแม่น้ำ ลำห้วย หัวมันนกสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ คนจึงนิยมนำมาแกงกัน แกงมันนกเป็นแกงเผ็ดน้ำใส มีวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก และยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
14. น้ำพริกปลาสลิด จังหวัดสมุทรปราการ
ภาพจาก https://food.mthai.com
ปลาสลิดเป็นปลาขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรปราการ ชาวบ้านจึงนิยมนำปลาสลิดมาทำเป็นอาหารกันมากทั้งทอด ยำ ต้มกะทิ หรือแม้กระทั่งทำเป็นของว่างคาว-หวาน เช่น กุงเชียง ปั้นสิบ ฯลฯ และที่เด็ดสุดก็ต้องเป็นน้ำพริกปลาสลิด ที่เป็นเมนูน้ำพริกแบบง่ายๆ ใช้เนื้อปลาสลิดทอดเป็นวัตถุดิบหลัก กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และผักสดหรือผักลวกตามใจชอบ
15. หอยหลอดผัดฉ่า จังหวัดสมุทรสงคราม
ภาพจาก https://www.facebook.com/Pae.srivichai
ที่จังหวัดสมุทรสงครามเขานิยมหาหอยหลอดกันและนำมาปรุงเป็นอาหาร โดยเฉพาะเมนูหอยหลอดผัดฉ่าที่ขึ้นชื่อมาก มีวิธีทำและเครื่องปรุงที่ไม่ยุ่งยากแต่อร่อยอย่างเหลือเชื่อ หอยหลอดตัวอวบอ้วนเคี้ยวหนุบหนับกับเครื่องฉ่าที่เผ็ดร้อนเข้ากันได้ดีมาก ฉะนั้นหากได้มาจังหวัดสมุทรสงครามต้องลองเมนูนี้ให้ได้
16. แกงส้มปูไข่ใบชะคราม จังหวัดสมุทรสาคร
ภาพจาก https://world.kapook.com
ใบชะครามเป็นพืชไม้พุ่มเตี้ยที่ขึ้นอยู่ตามป่าชายเลน เวลาปรุงอาหารจะนำมาต้มทั้งก้านให้ใบนิ่มแล้วเอามาชุบแป้งทอดกินกับน้ำพริกกะปิ หรือจะกินเป็นผักลวกก็ได้ แต่ที่ขึ้นชื่อสุดๆของใบชะครามก็ต้องเป็นเมนูแกงส้มปูไข่ ที่นำเอาปูไข่มาผสมกับวัตถุดิบพื้นบ้านอย่างใบชะคราม อร่อยเด็ดมากทีเดียว
17. ผัดหมี่ไทยวน จังหวัดสระบุรี
ภาพจาก https://travel.trueid.net
ผัดหมี่ไทยวนเป็นเส้นหมี่ผัดสีเหลืองอ่อน คล้ายกับหมี่สีชมพูที่คุ้นเคยกัน วิธีการปรุงก็คล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่รสชาติของผัดหมี่ไทยวนจะจัดจ้านมากกว่า ด้วยส่วนผสมของหอมแดงและพริกแห้งทำให้ได้รสเผ็ดมากกว่ารสชาติหวานอย่างหมี่สีชมพู
18. ปลาช่อนแม่ลา จังหวัดสิงห์บุรี
ภาพจาก https://www.wongnai.com
สิงห์บุรีเป็นเมืองแห่งปลา หากได้มาจังหวัดสิงห์บุรีก็ต้องมากินปลาช่อนแม่ลา โดยนำปลามาย่างไฟอ่อนๆจนเกล็ดและหนังเกรียมดำ พอแกะหนังออกก็จะเห็นเนื้อปลาสีขาวอมน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมฟุ้ง เนื้อนุ่ม กินกับน้ำจิ้ม และยอดสะเดาเป็นเครื่องเคียง หรือจะกินกับผักสด ผักลวกก็ได้
19. ข้าวเปิ๊บ จังหวัดสุโขทัย
ภาพจาก https://www.edtguide.com
เปิ๊บ เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า พับไปพับมา ข้าวเปิ๊บก็คือข้าวที่พับไปมานั่นเอง วิธีการก็คล้ายกับการทำข้าวเกรียบปากหม้อ เมื่อสุกก็ตักข้าวเปิ๊บมาใส่จาน โปะหน้าด้วยไข่ที่นึ่งสุกบนปากหม้อดิน ราดน้ำซุปกระดูกหมู โรยหมูแดงชิ้นใหญ่ หมูสับ และกากหมู ก็จะได้ข้าวเปิ๊บหน้าตาน่าทาน รสชาติอร่อยแล้ว
20. ปลาม้าแดดเดียว จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาพจาก https://world.kapook.com
ปลาม้าแดดเดียวเป็นเมนูเด็ดประจำถิ่นที่คนมาสุพรรณบุรีห้ามพลาดโดยเด็ดขาด วิธีการคือนำปลาม้าสดๆมาควักไส้ล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปผึ่งให้แห้ง คลุกเคล้าเกลือ แล้วนำไปตากแดดอีกที แต่อย่าปล่อยให้แห้งเกินไป เพราะเวลาทอดเนื้อปลาจะแห้งแข็งไม่น่ากิน
21. ขนมเกสรลำเจียก จังหวัดอ่างทอง
ภาพจาก http://www.easycookingmenu.com
เกสรลำเจียกเป็นขนมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอ่างทอง และเป็นขนมไทยที่หากินได้ยากมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก ตัวขนมมีลักษณะคล้ายกับดอกลำเจียกที่สุกงอมได้ที่ หากได้กินตอนร้อนๆที่ทำออกมาใหม่ๆตัวแป้งจะนุ่มลิ้ม และหอมหวานมาก
22. ซาลาเปาไส้ปลาแรด จังหวัดอุทัยธานี
ภาพจาก https://www.tatcontactcenter.com
ปลาแรดเป็นของดีจังหวัดอุทัยธานี เนื่องจากมีเนื้อแน่น รสหวาน และไม่มีกลิ่นคาว จึงนำเนื้อปลาแรดมาแปรรูปทำเป็นไส้ซาลาเปา และอร่อยไม่แพ้กับซาลาเปาไส้อื่นๆเลย แถมซาลาเปาไส้ปลาแรดนี้ยังบ่งบอกเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เห็นเมนูอาหารทั้งหมดนี้ เชื่อว่าต้องมีคนท้องร้องแน่ๆ มีเมนูไหนที่ถูกใจสาวๆกันบ้างไหมเอ่ย? เอาเป็นว่าชอบใจเมนูไหน หรืออยากลองชิมเมนูอะไรก็ขับรถไปกินถึงที่ได้เลย เพราะอาหารไทยอร่อยทุกอย่างอยู่แล้ว