ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆเยอะไม่แพ้กับต่างประเทศเลย เที่ยวตลอดปีก็ไม่หมด ไหนๆ ช่วงนี้ก็ปิดเทอมทั้งที มาแพ็คกระเป๋าเที่ยวไทยกันเถอะ
1. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก https://www.thetrippacker.com
สังขละบุรีเป็นหมู่บ้านชุมชนมอญเล็กๆ ใกล้กับชายแดนพม่า ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง มาพักผ่อนและใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ดูการใช้ชีวิตของชาวบ้านทั้งสองฝั่ง สัมผัสกับบรรยากาศที่เรียบง่าย มานอนที่นี่สักคืน สองคืน ก็เหมือนกับได้ชาร์จแบตเต็ม 100% แล้ว ตื่นเช้ามาไปใส่บาตร สายเดินเล่นที่สะพานมอญ บ่ายให้มัคคุเทศก์น้อยพาเที่ยว เย็นหาอะไรอร่อยๆทานที่ตลาด แค่นี้ก็เป็นช่วงเวลาปิดเทอมที่มีความสุขแล้วล่ะ
2. เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต
ภาพจาก https://www.thailandtourismdirectory.go.th
ปิดเทอมเป็นช่วงหน้าร้อนพอดี ก็ต้องไปเที่ยวทะเลสิ แพ็คกระเป๋าไปลุยกับเพื่อนๆหรือแฟนกันเลยที่เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต ที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวที่มองจากด้านบนฟ้าลงมาจะเห็นเป็นรูปท่อนไม้ จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง เนื่องจากเกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัว นักท่องเที่ยวต่อวันไม่ค่อยเยอะ จึงทำให้ที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมาก น้ำทะเลใสแจ๋ว ทรายสีขาวเนียนนุ่มเท้า บวกกับโลกใต้ทะเลที่สวยงาม จึงทำให้ปิดเทอมนี้ต้องไม่พลาดมาที่นี่ให้ได้
3. บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภาพจาก http://hotelandresortthailand.com
ใครอยากเที่ยวไทยเหมือนอยู่ต่างประเทศ แนะนำที่นี่เลยค่ะ หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่มีบรรยากาศรายล้อมด้วยหุบเขาใหญ่ เหมือนอยู่เมืองจีนยังไงยังงั้น ถึงจะไปช่วงปิดเทอมที่เป็นหน้าร้อน แต่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ร้อนเลย เพราะมีอากาศเย็นสบายเกือบทั้งปี นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ทั้งปั่นจักรยานชิวๆรอบหมู่บ้าน, เดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศก์น้อย และขี่ม้าข้ามแดนไปฝั่งพม่า อ้อ! มาที่นี่ต้องห้ามพลาดไปชิมชาและขาหมูหมั่นโถวเขาด้วยนะ เพราะมันอร่อย และเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่จ้า
4. บางปู จังหวัดสมุทรปราการ
ภาพจาก https://www.thetrippacker.com
บางปูเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เดินทางไปง่าย อากาศดี ไปที่บางปูจะได้พบกับฝูงนกนางนวล ที่จะเห็นได้เพียงเดือนพฤศจิกายน – เมษายนของทุกปีเท่านั้น นอกจากฝูงนกนางนวลแล้ว ยังมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆให้ทานพร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิว ตกเย็นก็นั่งมองดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พร้อมกับชมวิถีชีวิตของชาวประมง ใกล้กรุงเทพด้วย บรรยากาศก็ดีด้วย แบบนี้บอกเลยปิดเทอมต้องมาให้ได้สักวันค่ะ
5. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ภาพจาก http://district.cdd.go.th/kosichang
ปิดเทอมนี้อยากได้ฟีลเที่ยวทะเล สัมผัสลมทะเลเย็นๆ ใกล้กรุงเทพด้วย แนะนำมาที่เกาะสีชังเลยจ้า บรรยากาศดี อากาศก็ดี ทั้งยังคงความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิมไว้ได้อย่างยาวนาน และมีสะพานอัษฎางค์ที่เป็นสะพานอายุยาวนานสไตล์ไทยโบราณ ที่คนมาเที่ยวที่นี่ทุกคนต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เพราะเชื่อกันว่าหากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันที่บนสะพานนี้กับคนรัก จะทำให้ความรักยืนยาว ว้าว โรแมนติกสุดๆ ปิดเทอมนี้จูงมือแฟนไปเกาะสีชังกัน ส่วนใครที่ไม่มีแฟนก็ไม่ต้องเสียใจ ไปเที่ยวกับเพื่อนก็ได้ฟีลสนุกสนานไปอีกแบบจ้า
6. สวนป่าดอยบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพจาก https://www.sanook.com/travel/1416437
ปิดเทอมนี้ชวนเพื่อน ชวนแฟน ขึ้นเชียงใหม่ไปเที่ยวสวนป่าดอยบ่อหลวงกัน เพราะที่นี่กำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อินเทรนด์สุดๆ กับบ้านพักที่เป็นไม้ทั้งหลัง อยู่ท่ามกลางป่าสน ที่มองมุมไหนก็เขียวไปหมด ทั้งยังมีสายหมอกปกคลุมทั้งที่ไม่ใช่หน้าหนาว อากาศก็ดีตลอดปี จึงทำให้ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด เพราะมันแจ่มมาก ได้รูปสวยๆไว้อัพไอจี เฟซบุ๊ค ไว้อวดชาวโซเชียลแน่นอน ถึงแม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในไทย แต่ความรู้สึกมันเหมือนกับไปเที่ยวเมืองนอกมากๆ บอกเลยต้องมาค่ะ
7. เขาใหญ่
ภาพจาก http://www.painaidii.com
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี เพื่อนๆสามารถมาพักผ่อนที่นี่แบบค้างคืนหรือจะไปเช้าเย็นกลับก็ได้ เพราะอยู่ใกล้กับกรุงเทพนี่เอง อากาศก็ดี หนาวเย็นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ที่เขาใหญ่ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ไม่ว่าจะดูสัตว์, แรลลี่ และมีคอนเสริ์ตมาจัดอยู่บ่อยๆ จึงไม่แปลกที่ปิดเทอมนี้ ใครๆก็ไปเที่ยวเขาใหญ่กัน
8. เชียงคาน จังหวัดเลย
ภาพจาก https://travelthailand.me
เชียงคานเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเลย ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง เชียงคานเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนนิยมไปกัน เหมาะมากสำหรับไปเพื่อพักผ่อนในช่วงปิดเทอม ด้วยบรรยากาศแบบเรียบง่าย, เสน่ห์ของบ้านไม้หลังเล็กๆ และวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งสองฝั่ง จึงไม่แปลกที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย และมีกิจกรรมที่ห้ามพลาดของเชียงคานอยู่นั่นก็คือการตักบาตรข้าวเหนียว, เดินช้อปปิ้ง และกินอาหารพื้นเมืองที่ถนนคนเดิน
9. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ภาพจาก https://www.chillpainai.com
เขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่สวยงามจนได้รับสมญานามว่ากุ้ยหลินเมืองไทย ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน และน้ำใสสีเขียวมรกต ทั้งยังมีถ้ำหินงอกหินย้อย จึงดูคล้ายกับกุ้ยหลิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศจีน นอกจากจะมาชมความงามของเขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว ยังสามารถเล่นน้ำ พายเรือคายัค หรือจะมานอนชิวๆชมไอหมอกและวิวผาหินปูน ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ
10. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
ภาพจาก http://dmiceplanner.businesseventsthailand.com
ปิดเทอมทั้งทีก็มาหาความรู้นอกห้องเรียนกันสักหน่อย ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่นี่ได้รับการยกให้เป็นเขตมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก (UNESCO) ภายในอุทยานมีซากปรักหักพังของวัดโบราณร่วม 26 แห่ง รวมไปถึงฐานพระราชวังเดิม คูน้ำและกำแพงเมือง สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเก่าสุโขทัยที่เรารู้จักกันดี คือ วัดมหาธาตุที่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นแหล่งศึกษางานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของศิลปะยุคสุโขทัย