ภาพปก

8 ข้อที่ควรรู้ ก่อนคิดซื้อกระเป๋าเดินทาง ให้โดนใจ และใช้งานได้จริง

สำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆหรือชื่นชอบการเดินทาง การมีกระเป๋าเดินทางดีๆสักใบจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งเดี๋ยวนี้กระเป๋าเดินทางก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเป้ กระเป๋าลาก กระเป๋าสะพายข้าง แต่ละแบบก็เหมาะกับการท่องเที่ยวแต่ละสไตล์แตกต่างกันไป หากชอบลุยป่า ขึ้นเขา ก็ต้องใช้เป้ ไปต่างประเทศก็ต้องเป็นกระเป๋าลาก แต่หากใครยังไม่มีกระเป๋าเดินทาง และกำลังคิดที่จะซื้อกระเป๋าเดินทางดีๆสักใบอยู่ ก็ต้องดูและพิจารณากันให้ดีๆก่อนซื้อ วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับ 8 ข้อที่จะช่วยให้สาวๆเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางได้แบบโดนใจ แถมยังนำไปใช้งานจริงได้ด้วยค่ะ

1. ขนาดของกระเป๋า

1 ขนาดของกระเป๋า

ภาพจาก undubzapp.com

แน่นอนว่ากระเป๋าใบใหญ่จะบรรจุของได้มากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ไปท่องเที่ยวด้วย หากไปประมาณ 1–3 วัน ก็ให้ใช้กระเป๋าขนาด 18-20 นิ้ว ไป 4–6 วัน ควรเลือกใช้กระเป๋าขนาด 24 นิ้ว ไป 7-10 วัน ก็ให้เลือกใช้กระเป๋าขนาด 28 นิ้ว ส่วนกระเป๋าเป้นั้น หากไป 1-2 วัน ก็ให้ใช้กระเป๋าขนาด 10-30 ลิตร ไป 2-5 วัน ใช้กระเป๋าขนาด 25-32 ลิตร ไป 5-7 วัน ใช้กระเป๋าขนาด 32-40 ลิตร ไป 8-14 วัน ควรเลือกใช้กระเป๋าขนาด 40-70 ลิตร

2. วัสดุของกระเป๋า แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

  • กระเป๋าเดินทางประเภทอ่อน (Soft Case) มักจะผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมไนล่อน ข้อดีของมันคือมีความยืดหยุ่น สามารถใส่ของลงในช่องที่แคบและจำกัดได้ เหมาะกับคนที่มีเสื้อผ้าหรือสิ่งของเยอะ เพราะกระเป๋าสามารถยืดหยุ่นได้และเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากขึ้น บางรุ่นก็ยังเป็นผ้าแบบกันน้ำได้ด้วย ข้อเสียของมันก็คือการรับแรงกระแทกได้น้อย และอาจฉีกขาดได้ถ้าวัสดุไม่มีคุณภาพพอ
  • กระเป๋าเดินทางประเภทแข็ง (Hard Case) จะผลิตจากพลาสติก ส่วนมากเป็นโพลีคอร์บอเนต (PC) และอะคริโลไนไตรล์ บิวทาไดอีน สไตรีน (ABS) ข้อดีของมันคือมีความทนทาน บางรุ่นมีการผลิตจากวัสดุพิเศษ ทำให้กระเป๋าเบาแต่ก็ยังแข็งแรง ทำให้ของข้างในไม่เสียหายเวลาโดนกดทับ กันน้ำได้ และป้องกันขโมยได้ด้วย เพราะกรีดเปิดยาก ข้อเสียคือไม่ยืดหยุ่น เก็บยาก หากทำมาจากวัสดุคุณภาพไม่ดีก็อาจแตกได้

ส่วนกระเป๋าเป้นั้น ควรเลือกผ้าที่ไม่ฉีกขาดง่าย มีรอยเย็บที่แข็งแรง ตัวกระเป๋าเบาแต่รับน้ำหนักได้ดี มีโครงสร้างที่ซัพพอร์ตหลัง สะพายนานๆ แล้วไม่เมื่อย

3. ช่องใส่ของ

3 ช่องใส่ของ

ภาพจาก https://www.ladyissue.com

กระเป๋าเดินทางแบบผ้าก็ต้องมีช่องใส่ของเยอะกระเป๋าเดินทางแบบแข็งอยู่แล้ว ฉะนั้นก่อนจะซื้อกระเป๋าควรพิจารณาว่าเราจะเอาเสื้อผ้าสิ่งของใส่ลงในกระเป๋าเยอะหรือเปล่า จะช้อปปิ้งของเพิ่มหรือไม่ หรือชอบจัดแจงของให้เป็นระเบียบ ก็ซื้อกระเป๋าให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด

4. ซิบ หูหิ้ว คันชักกระเป๋า

ตรวจดูซิปด้วยว่าแข็งแรง ไม่กินเนื้อผ้าหรือเปล่า หูหิ้วก็สำคัญ ควรจะแข็งแรง จับง่าย ส่วนกระเป๋าลากก็จะมีคันชักกระเป๋า ก็ให้เลือกแบบที่ปรับความยาวได้ หากเป็นคันชักที่ติดตั้งอยู่ในกระเป๋าเลยจะพังยากกว่า เพราะมีความแข็งแรงสูง ยังไงก็ลองทดสอบจับ ลาก รูดซิบดูก่อนจะดีที่สุดค่ะ

5. ล้อ มี 2 แบบคือ

  • กระเป๋าลากแบบ 2 ล้อ ข้อดีคือ ลากไปในทางที่ขรุขระได้ และควรเลือกล้อที่หมุนได้รอบทิศทาง เพราะจะง่ายต่อการลากมาก ส่วนข้อเสียนั้น กระเป๋าลากแบบ 2 ล้อจะออกแรงเยอะกว่ากระเป๋าลากแบบ 4 ล้อ หากกระเป๋าหนักและต้องใช้เวลาในการลากนาน ก็จะทำให้ปวดข้อมือและไหล่ได้
  • กระเป๋าลากแบบ 4 ล้อ ข้อดีคือ ลากง่ายกว่ากระเป๋าลากแบบ 2 ล้อ ล้อที่หมุนได้ 360 องศา ทำให้เคลื่อนย้ายกระเป๋าได้ง่ายแม้ในพื้นที่ที่จำกัด อย่างในลิฟต์ บนรถไฟ หรือบนทางเดินเครื่องบิน ข้อเสียคือ ไม่สามารถวางบนทางลาดได้ และล้อลากที่ยื่นออกมานอกกระเป๋าอาจพังได้ง่าย เราขอแนะนำให้เลือกล้อที่เป็นยางทั้งลูก หรือเป็นล้อที่ฝังอยู่ในกระเป๋าจะดีกว่า เพราะพังยาก และเลือกล้อแบบคู่ก็จะแข็งแรงทนทานกว่าล้อแบบเดี่ยว

6. ตัวล็อก

6 ตัวล็อก

ภาพจาก www.tokyu-hands.co.jp

กระเป๋าที่มีตัวล็อก TSA จะช่วยป้องกันการขโมยได้ดีกว่าและป้องกันการเปิดกระเป๋าเดินทางของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อนี้สาวๆควรพิจารณาให้ดีเลย

7. สี

การเลือกสีกระเป๋าที่มีความโดดเด่น สะดุดตา ก็จะทำให้เราหากระเป๋าได้ง่ายขึ้น เมื่อกระเป๋าเราต้องไปอยู่รวมกับกระเป๋าของคนอื่น ทั้งยังทำให้กระเป๋าเดินทางของเราไม่ถูกสลับสับเปลี่ยน เพราะความเข้าใจผิดอีกด้วย ส่วนสีที่อ่อนๆก็จะทำให้เปื้อนง่าย แต่ยังไงก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเนาะ

8. ราคาของกระเป๋าและการรับประกัน

กระเป๋าที่มีคุณภาพดี มักจะราคาสูง และกระเป๋าที่ราคาสูงมากไป มักจะไปต้องตาเหล่าโจรขโมยได้เหมือนกัน ฉะนั้นควรเลือกกระเป๋าเดินทางที่มีคุณภาพดี ราคาเหมาะสม ไม่เลือกกระเป๋าที่ถูกจนเกินไป เพราะมันทำจากวัสดุคุณภาพไม่ดี พังง่าย และต้องมาเสียเงินซื้อใหม่อีก สู้จ่ายเงินเพิ่มอีกนิดให้ได้กระเป๋าคุณภาพดี มีอายุการใช้งานได้นานกว่า จะคุ้มค่ามากกว่าอีก การรับประกันหลังการขายก็เช่นกัน ควรดูให้ดีๆก่อนซื้อด้วย