Site icon phuyings

6 เลเซอร์หน้ายอดฮิต เลือกแบบไหนดี พร้อมวิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำเลเซอร์

เดี๋ยวนี้สาวๆฮิตทำเลเซอร์หน้ากันเยอะมาก เพราะการเลเซอร์หน้าช่วยให้หน้าขาวเนียนกระจ่างใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย กระ ฝ้า ลดเรือนจุดด่างดำ หรือแม้กระทั่งกำจัดขน แต่การทำเลเซอร์หน้าก็มีหลากหลายแบบให้เลือกอยู่เหมือนกัน เพื่อให้สาวๆเลือกประเภทของเลเซอร์หน้าได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราจึงจะมาอธิบาย 6 เลเซอร์หน้ายอดฮิตว่ามันคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง พร้อมกับวิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำเลเซอร์ค่ะ

1. Ulthera

ภาพจาก https://th.hellomagazine.com

Ulthera เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง โดยเจาะจงไปยังบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ทำการผ่าตัดสำหรับดึงใบหน้า โดยคลื่นเสียงนี้จะลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ และทิ้งระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 1 – 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งแพทย์จะสามารถมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอขณะทำการรักษาได้ทันที ทำให้เกิดความแม่นยำในการยกกระชับหน้าไปพร้อมกับการปรับคลื่นเสียงที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน

เหมาะกับใคร?

Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ, ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และผู้ที่ต้องการลดคางสองชั้น เหนียง และแก้ปัญหาคอที่เหี่ยวย่น

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Ulthera

2. YAG Laser

ภาพจาก https://www.honestdocs.co

YAG Laser เป็น Q-switched ประเภทหนึ่งที่ปล่อยแสงอยู่ในความถี่ ขณะยิงเลเซอร์จะปล่อยพลังออกมาในช่วงสั้นๆ แต่ให้กำลังแสงสูง แสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่ดูดซับเมลานินในจุดที่เป็นปัญหา แล้วเซลล์เม็ดสีจะถูกทำลาย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ส่งผลร้ายหรือทำลายเซลล์ผิวที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

เหมาะกับใคร?

ผู้ที่เป็นฝ้า กระ ไฝ ปานดำ รอยสิว หรือผู้ที่ต้องการลบรอยสัก

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ YAG Laser

3. eMatrix

ภาพจาก http://www.lady108.com

eMatrix เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงปล่อยพลังงานความร้อนเป็นจุดเล็กๆที่ชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

เหมาะกับใคร?

eMatrix เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตื้น ริ้วรอยปานกลาง และปัญหาหลุมสิวลึก

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ eMatrix

4. Thermage CPT

Thermage CPT เป็นการใช้เทคโนโลยีความร้อนสูง โดยใช้ความถี่คลื่นวิทยุสร้างความร้อนให้แก่ผิวหนัง ความร้อนก็จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

เหมาะกับใคร?

Thermage CPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว ยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอย

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Thermage CPT

5. Hifu

ภาพจาก https://mekoclinic.com

Hifu เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงโดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัวคล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น

เหมาะกับใคร?

Hifu เหมาะกับผู้ที่ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หนังตาตก, ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องการผ่าตัด, ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย, ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ, ลดเหนียงใต้คาง และกระชับรูขุมขน โดยผู้ที่ทำต้องมีอายุระหว่าง 25 – 35 ปี

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Hifu

6. Co2 Laser

Co2 Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ที่สามารถตัดและทำลายเนื้อเยื่อในจุดที่มีปัญหาโดยไม่ทำให้เลือดออก แพทย์จึงหันมาใช้เลเซอร์ชนิดนี้ทดแทนเครื่องจี้ไฟฟ้า เนื่องจากรักษาได้ผลดีกว่าและเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า โดยเฉพาะเรื่องของแผลหลังการรักษา

เหมาะกับใคร?

ผู้ที่ต้องการกำจัดกระ, ขี้แมลงวัน, ไฝ, สิว, หลุมสิว, หูด และติ่งเนื้องอก

ข้อดี

ข้อเสีย

วิธีการดูแลผิวหน้าหลังทำ Co2 Laser

เลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลผิวหน้า ถึงแม้จะมีค่ารักษาที่แพง แต่หากใครเงินถึงก็จัดเลยค่ะ บอกเลยว่าคุ้มค่า คุ้มราคาแน่นอน

Exit mobile version